ฟุตบอลลีกใหญ่ของยุโรป ฤดูกาล 2022/23 กำลังทะยอยจบลง ซึ่งแน่นอนมีทีมที่สมหวังและผิดหวังไปตามผลงานที่ทำได้ เฉกเช่นเดียวกับนักเตะที่ถูกดึงเข้ามาเสริมทีม บางคนค่าตัวมหาศาล มาพร้อมกับความคาดหวังที่สูงลิบ แต่ก็มีทั้งคนที่สอบผ่าน และสอบตก ในเวลาเดียวกัน
วันนี้ UFAARENA จะพาไปชมบรรดานักเตะที่ถูกจัดว่าเป็นดีลล้มเหลวประจำฤดูกาล 2022/23 อิงจากค่าตัว ความคาดหวัง และผลงาน
กองกลางชาวฝรั่งเศส ย้ายกลับมาอยู่กับ ยูเวนตุส อีกครั้งเป็นคำรบสอง แบบไร้ค่าตัว ซึ่งดูเหมือนจะเป็นดีลที่ไม่มีอะไรเสีหายสำหรับทัพ ม้าลาย ในการได้กองกลางดีกรีแชมป์โลกมาร่วมทีม
อย่างไรก็ตามยังไม่ทันที่ฤดูกาลใหม่จะเริ่ม ป็อกบา ก็ดันเจออาการบาดเจ็บเล่นงานตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น โดยเป็นการเดี้ยงยาวเกินครึ่งซีซั่น กว่าจะกลับมาลงสนามได้อีกครั้งก็ปาเข้าไปปลายเดือนกุมภาพันธ์ แต่ลงสนามได้แค่ 2 เกมก็เจ็บซ้ำอีก พอกลับมาก็เจ็บซ้ำอีก
รวมแล้ว ป็อกบา ได้ลงสนามไปให้กับ เบียงโคเนรี่ รวมทุกรายการไปแค่ 10 นัดเท่านั้น ทำได้ 1 แอสซิสต์ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผลงานโดยรวมของสโมสรไม่ดีไปด้วย
ดาวเตะเลือดซามูไรเลือกย้ายไปค้าแข้งต่อในลีก เอิงกับ โมนาโก หลังจากแยกทางกับ ลิเวอร์พูล แต่การมาลุยที่แดนน้ำหอมกลับเป็นไปอย่างน่าผิดหวัง
แค่ช่วงต้นฤดูกาลเจ้าตัวก็โดนยกให้เป็นดีลล้มเหลวที่สุดประจำซีซั่นแล้ว ทั้งที่ผ่านไปแค่ 7 นัดเท่านั้นโดยให้ความเห็นว่า “ร่างกายของนักเตะไม่แข็งแกร่ง ทำให้ไม่สามารถเอาชนะกับการดวลกองหลังได้ และน่าจะเป็นเหตุผลที่นักเตะไม่ได้เป็นตัวหลักของ หงส์แดง”
แน่นอนว่ามันอาจเป็นการด่วนตัดสินเกินไป แต่จนแล้วจนรอดเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล มินามิโนะ ได้ลงสนามไปทั้งหมด 24 นัดยิง 1 ประตู 4 แอสซิสต์รวมทุกรายการเท่านั้น โดยนับเป็นการลงเป็นตัวจริงเพียง 14 นัด
สำหรับ เดปาย ไม่ได้ย้ายในช่วงซัมเมอร์แต่โดน บาร์เซโลน่า ปล่อยออกจากทีมไปในตลาดเดือนมกราคมด้วยราคา 20 ล้านยูโรให้กับ แอตเลติโก มาดริด
หลังจากที่เจ้าตัวเสียตำแหน่งในแนวรุกให้กับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ นอกจากนี้ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนด้วย ทำให้ได้ลงสนามไปเพียงแค่ 3 นัดเท่านั้นกับทีม
การมาอยู่กับทัพ ตราหมี หัวหอกชาวดัตช์ กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง แต่ก็ได้ลงเล่นไปแค่ 9 นัดจากทุกรายการก็มีอาการบาดเจ็บซ้ำอีก และต้องพักยาวจนจบฤดูกาล สุดท้ายก็ฝากไว้ได้แค่ 4 ประตูเท่านั้น
ดาวดังที่ย้ายจาก ลิเวอร์พูล มาสู่ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยค่าตัวราว 32 ล้านยูโร แน่นอนว่าความคาดหวังสูงจากผลงานที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ ถ้าจะพูดให้แฟร์ในเรื่องของตัวเลขผลงานเจ้าตัวไม่ได้น่าเกลียดนัก ลงสนาม 38 นัดยิง 12 ประตู 6 แอสซิสต์รวมทุกรายการ
แต่ในส่วนของความเป็นทีม มาเน่ การเล่นตามแท็คติก รวมถึงการปรับตัวเข้ากับทีมต้องบอกว่า “สอบตก” แถมยังมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนในทีมอย่าง เลรอย ซาเน่ อีกด้วย ทำให้ในดีลนี้แม้ว่าตัวเลข และความสำเร็จจะพอรับได้ แต่ก็นับว่าเป็นดีลที่น่าผิดหวังไม่น้อยเลย
อดีตหอกอาร์เซน่อล ที่ได้โอกาสกลับมาสู่เวทีพรีเมียร์ลีก อีกครั้งกับ เชลซี โดยเป็นการเข้ามาทดแทน โรเมลู ลูกากู ที่ถูกปล่อยยืมออกไป เมื่อฤดูกาลเริ่มขึ้น “โอบา” แรกๆ ได้โอกาสลงสนามต่อเนื่องก็จริง แต่ตลอด 20 เกมแรกหัวหอกชาว กาบอง ยิงไปได้แค่ประตูเดียวในลีก
หลังจากนั้นเจ้าตัวก็แทบไม่ได้ถูกเลือกให้ลงสนามแม้ว่าในทีมจะไม่มีกองหน้าธรรมชาติคนอื่นเลย ไม่ว่าจะเป็น เกรแฮม พอตเตอร์ หรือ แฟรงค์ แลมพาร์ด มักจะเลือกใช้งาน ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่เป็นกลางรุกไปเล่นหน้าเป้าแทนมากกว่า
กองหน้าค่าตัว 60 ล้านยูโร ที่ถูก สเปอร์ส ดึงมาจาก เอฟเวอร์ตัน มาพร้อมความคาดหวังมหาศาล หลังเจ้าตัวมีผลงานที่จับต้องได้ เป็นเดอะแบกของทัพ ทอฟฟี่น้้ำเงิน และมีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีกที่โชกโชนไม่ต้องปรับตัวให้เสียเวลา
แต่ในความเป็นจริงแล้วตลอด 35 นัดที่ลงสนามรวมทุกรายการ ริชาร์ลิซอน ทำไปได้แค่ 3 ประตู 4 แอสซิสต์เท่านั้น นอกจากมีไว้ปั่นหัวคู่แข่งแล้ว แข้งแซมบ้า รายนี้ก็ไม่ตอบโจทย์ค่าตัวสูงลิบที่ทีมเสียไปได้เลย
กองกลางตัวยืมที่เหล่าแฟน หงส์แดง ต่างไม่เข้าใจว่ายืมมาทำไม โดยแข้งชาวบราซิเลี่ยน ถูกเช่ามาในช่วงนาทีสุดท้ายของตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ ด้วยความคาดหวังที่จะมาช่วยเติมเต็มแดนกลางที่ผลัดกันบาดเจ็บแบบไม่มีพัก
แต่สุดท้ายยังไม่ทันได้ลงสนามก็เจออาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อระหว่างซ้อมจนต้องผ่าตัด พักยาวตั้งแต่ต้นซีซั่นลากยาวมาจนถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แม้จะฟื้นตัวกลับมาก็ไม่ถูกเรียกใช้งาน สรุปแล้วตลอดซีซั่น 2022/23 อาร์ตูร์ ได้ลงให้ทีมชุดใหญ่ไปแค่เกมเดียวในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มกับ นาโปลี โดยเป็นการลงสนามไปแค่ 13 นาทีเท่านั้น
กองหน้าทีมชาติอิตาลี ที่เคยถูกตีราคาไว้สูงถึง 100 ล้านยูโร และเคยเป็นเป้าหมายหลักในการเสริมทัพของหลายทีมทั่วยุโรป สู่การเป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์ที่ได้มาลงเอยกับ โรม่า ภายใต้การทำทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
ทว่า เบล็อตติ กลายเป็นดีลที่น่าผิดหวังจากการลงสนาม 44 นัดรวมทุกรายการ เป็นตัวจริงแค่ 20 นัดยิงได้ 4 ประตู แต่ถ้าโฟกัสแค่ลีกเจ้าตัวทำประตูไม่ได้เลยสักประตูเดียว แม้จะได้โอกาสลงสนามเรื่อยๆ แบบไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวนเลยก็ตาม
แนวรุกดาวรุ่งที่ เอซี มิลาน ไปดึงมาจาก คลับ บรูกก์ นับเป็นนักเตะที่แพงที่สุดในฤดูกาลนี้ที่พวกเขาดึงเข้ามาสู่ทีม เจ้าตัวมาพร้อมความคาดหวังที่สูง จากราคาค่าตัว 35 ล้านยูโรและฝีเท้าทั้งยิงทั้งจ่ายตอนเล่นอยู่ในลีกบ้านเกิด
แต่เมื่อมาถึงลีกอิตาลี ดาวเตะชื่อเรียกยากทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลยสักนิด ไม่สามารถใช้ความได้เปรียบด้านรูปร่างที่สูงถึง 192 เซนติเมตร ไร้ซึ่งความแข็งแกร่ง ไม่มีความเร็ว ลงสนาม 39 นัดรวมทุกรายการ ทำประตูไม่ได้เลยสักเม็ด จะมีดีหน่อยก็แอสซิสต์ที่ทำได้ 1 ประตูเท่านั้น
บิ๊กดีลในช่วงตลาดหน้าหนาวประจำพรีเมียร์ลีกของ เชลซี ที่ไปปาดหน้าอริร่วมเมืองอย่าง อาร์เซน่อล คว้าตัว มิไคโล มูดริค ดาวดังจาก ชัคตาร์ โดเนต์สค มาด้วยราคา 70 ล้านยูโร บวกออปชั่นเพิ่มเติมอีก 30 ล้านยูโร
แต่การมาอยู่กับ สิงห์บลู ในช่วงเวลาที่ผลงานของทีมกระท่อนกระแท่นส่งผลกระทบกับเจ้าตัวไม่น้อย แต่ส่วนนึงก็เป็นที่ตัวนักเตะที่มีโอกาสหลายครั้งแต่ก็ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ได้ลงสนามให้ทีม 17 นัดรวมทุกรายการแต่ทำประตูไม่ได้เลย ยังดีที่มีแอสซิสต์ติดไม้ติดมือมาบ้าง 2 ครั้งในพรีเมียร์ลีก นับเป็นดีลที่น่าเสียดายเม็ดเงินที่สุดในซีซั่นนี้