ทูเคิ่ลรายล่าสุด : 9 แข้ง-กุนซือดังที่เคยอยู่ทั้งเสือเหลือง-เสือใต้

ทูเคิ่ลรายล่าสุด : 9 แข้ง-กุนซือดังที่เคยอยู่ทั้งเสือเหลือง-เสือใต้

ตลอดเวลา 60  ปีที่บุนเดสลีก้า เยอรมันได้ก่อตั้งมา ทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการลูกหนังเมืองเบียร์ คงหนีไม่พ้นชื่อของ บาเยิร์น มิวนิค อย่างแน่นอน

แต่ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เป็นทีมที่ขึ้นมาท้าทายมหาอำนาจเบอร์หนึ่งอย่างบาเยิร์น มิวนิค ได้มากที่สุด ถึงขั้นแย่งแชมป์ลีกไปครองถึง 2 ปีติด ทำให้เกมระหว่าง ‘เสือใต้’ กับ ‘เสือเหลือง’ คือหนึ่งในเกมที่น่าติดตามที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าทั้ง 2 ทีมอาจจะไม่ใช่คู่แข่งร่วมเมืองกันโดยตรงก็ตาม

และแน่นอนว่า เมื่อไหร่ที่มีผู้เล่นย้ายสลับขั้วไปอยู่ทีมตรงข้ามกันย่อมกลายเป็นข่าวใหญ่ในหน้าหนังสือพิพม์หรือโลกออนไลน์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นเดียวกับกุนซือ แม้ไม่ได้ย้ายไปคุมโดยตรง แต่ก็สร้างความฮือฮาได้ไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งล่าสุดก็คือ โธมัส ทูเคิ่ล อดีตกุนซือ ดอร์ทมุนด์ ที่ย้ายไปนายใหญ่คนใหม่ของ เสือใต้ 

ด้วยเหตุนี้เอง UFA ARENA จึงขออาสาพาแฟนบอลไปย้อนดู 9 นักเตะและกุนซือชื่อดังที่เคยอยู่ทั้งดอร์ทมุนด์-บาเยิร์นตั้งแต่ยุคอดีตจนถึงยุคปัจจุบัน

 

มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์

WATCH: Hummels pokes fun at Dortmund teammate Bellingham after receiving  man of the match against Man City | Goal.com

กองหลังชาวเยอรมันสร้างชื่อกับโบรุสเซียดอร์ทมุนด์จนกลายเป็นกองหลังระดับโลกได้ และคว้าแชมป์บุนเดสลีก้าได้ถึง 2 สมัยซ้อน ในฤดูกาล 2011 และ 2012 พร้อมด้วยถ้วยเดเอฟเบ โพคาลอีกสมัย แต่แฟนบอลส่วนใหญ่อาจจะลืมไปว่า ฮุมเมิ่ลส์ เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับทีมอริร่วมประเทศอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ตั้งแต่สมัยเป็นเยาวชนโน้น

ฮุมเมิ่ลส์อยู่กับแคมป์ ‘เสือใต้’ รุ่นเยาว์มาตั้งแต่ปี 1995 ซึ่งเขามีอายุเพียงแค่ 7 ขวบเท่านั้น ก่อนได้สัญญาอาชีพในปี 2006 แต่ในตอนนั้น บาเยิร์นมียอดกองหลังอย่าง ลูซิโอ้, แดนนี่ ฟาน บุยเต็น และ มาร์ติน เดมิเคลิส อยู่ ทำให้โอกาสโชว์ของมีไม่มากและลงเล่นในทีมชุดใหญ่นัดเดียวเท่านั้น จากนั้นก็ถูกปล่อยให้ดอร์ทมุนด์ยืมไปใช้งานในปี 2008 และถูกขายขาดให้ในปี 2009 แต่ยอดทีมจากแคว้นบาวาเรียหารู้ไม่ว่ากำลังยื่นอาวุธให้กับศัตรูในอนาคตข้างหน้า

ฮุมเมิ่ลส์ กลายเป็นแข้งตัวหลักของเสือเหลืองภายในเวลาไม่นานและช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 21 ปี ด้วยผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมแบบนี้ไม่แปลกใจที่บาเยิร์นจะคว้าเขากับไปยังถิ่นอัลลิอันซ์ อารีน่าอีกครั้งในปี 2016

หลังจากอยู่มาได้ 3 ปี กองหลังวัย 34 กะรัต ก็ย้ายกลับไปเล่นในถิ่นซิกนัล อีดูน่า ปาร์ค เป็นครั้งที่ 2 เพียงแต่การกลับมาสวมเสื้อสีเหลืองคราวนี้ เขาทำได้เพียงคว้าถ้วย เดเอฟเบ โพคาล มาเพิ่มเท่านั้น

 

มาริโอ เกิตเซ่

Götze leads Bayern past BVB – DW – 11/23/2013

แม้การย้ายกลับมาบ้านเก่าของฮุมเมิ่ลส์จะเป็นที่ฮือฮาของแฟนบอลทั่วโลกพอสมควร แต่ว่าเขาก็ไม่ใช่นักเตะรายแรกที่ย้ายจากทีมอริลุ้นแชมป์กับมายังทีมเก่า ซึ่งคนๆนั้นก็คือชายที่มีชื่อว่า ‘มาริโอ เกิตเซ่’

เพลย์เมกเกอร์ชาวเยอรมันเป็นเด็กปั้นของดอร์ทมุนด์แต่ปี 2001 และก้าวขึ้นมาเล่นในชุดใหญ่ได้ด้วยวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น ด้วยความสามารถที่โดดเด่นเกินวัยทำให้เขาเป็นแข้งหนุ่มคนโปรดของ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ ‘เสือเหลือง’ ในตอนนั้น และมีส่วนพาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีก้า 2 สมัยซ้อนด้วย ซึ่งในปีต่อมาฟอร์มการเล่นของ เกิตเซ่ ก็พัฒนาขึ้นไปอีกเมื่อได้เล่นร่วมกับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ และ มาร์โก รอยส์ ในแดนหน้า โดยยิงไปได้ 16 ลูก กับ 13 แอสซิสต์ในฤดูกาล 2012-13

แต่แล้วแฟนๆ เบเฟาเบ ก็ต้องใจสลาย เมื่อบาเยิร์น มิวนิค คู่อริตัวฉกาจได้เข้ามาคว้าตัวเกิตเซ่ด้วยการฉีกสัญญามูลค่ากว่า 37 ล้านยูโร อีกทั้งตัวเกิตเซ่ต้องการย้ายไปร่วมงานกับเป็ป กวาร์ดิโอล่าด้วย นั่นทำให้สโมสรสีเหลืองดำต้องปล่อยแข้งอนาคตไกลให้คู่แข่งไปอย่างไม่เต็มใจนัก 

แต่ถึงแม้เขาจะคว้าแชมป์กับบาเยิร์นมากมายก็จริง แต่ก็ไม่ได้เป็นดาวเด่นในทีมเหมือนที่ดอร์ทมุนด์ ก่อนจะย้ายกลับมาในถิ่นเวสต์ฟาเลน สตาดิโอนอีกครั้งในปี 2016 และถึงแม้ว่าโรคระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานผิดปกติจะทำให้เขาใช้เวลาอยู่บนม้านั่งสำรองซะส่วนใหญ่ ก่อนระเห็จกลับมาในถิ่น ซึกนัล อิดูน่า ปาร์ค อีกครั้งในปี 2016

ทว่าผลงานของ เกิตเซ่ ก็ไม่ได้โดดเด่นเหมือนสมัยเป็นดาวรุ่ง จนอยู่กับทีมได้ 4 ปี ก็ย้ายไป พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น และ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ตามลำดับ

 

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

Lewandowski eyes toppling own record of 41 Bundesliga goals | The Guardian  Nigeria News - Nigeria and World News — Sport — The Guardian Nigeria News –  Nigeria and World News

เช่นเดียวกับฮุมเมิ่ลส์ เลวานดอฟสกี้สร้างชื่อให้แฟนบอลทั่วโลกได้รู้จักในช่วงค้าแข้งกับดอร์ทมุนด์และเป็นกุญแจสำคัญพาทีมเสือเหลืองคว้าแชมป์ลีกมาครองได้ 2 สมัยในยุคของเจอร์เก้น คล็อปป์ แต่หลังจากนั้นในปี 2014 หัวหอกชาวโปลก็ย้ายข้ามฝากไปอยู่กับบาเยิร์น มิวนิค ทีมอริลุ้นแชมป์ตามหลัง มาริโอ เกิตเซ่ ไปติดๆ

แต่นี้ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของเลวานดอฟสกี้ เพราะนับแต่ย้ายมาในถ้ำเสือใต้ เขาก็สามารถพัฒนาตัวเองให้กลายเป็นศูนย์อันดับต้นๆของโลกได้อย่างเต็มปาก และคว้าแชมป์บุนเดสลีก้าได้ 8 ปีติด เช่นเดียวกับรางวัลดาวซัลโว เลวานดอฟสกี้ก็เหมาคนเดียว 6 ครั้งจาก 8 ปีหลังสุดด้วย

อีกทั้งยังพ่วงด้วยแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล อีก 3 สมัย และถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับแชมป์สโมสรโลก ยุคโควิด ในปี 2020

อย่างไรก็ตาม ดาวยิงสูงสุดทีมชาติโปแลนด์ ก็ตัดสินใจลาถิ่น อัลลิอันซ์ อารีน่า หลังประสบความสำเร็จจนหมดแล้วในเยอรมนี โดยเลือกย้ายไปเล่นกับ บาร์เซโลน่า ของ ชาบี เอร์นานเดซ พร้อมเป้าหมายพา บาร์ซ่า กลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

 

ทอร์สเท่น ฟริงส์

Null Bock auf den FC Bayern: Warum Torsten Frings wegen dem BVB nach  München ging

กองกลางชาวเยอรมันอีกคนที่น่าจะคุ้นหูแฟนบอลรุ่นใหม่อยู่บ้างเล็กน้อย ทอร์สเท่น ฟริงส์ เป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากๆในสมัยที่เขาเล่นให้กับเวร์เดอร์ เบรเมน จึงไม่แปลกใจที่ทีมใหญ่ทั้งในและต่างประเทศจะรุมจีบเขาเป็นว่าเล่น แต่แล้วทีมที่คว้าลายเซ็น ฟริงส์ ไปครองก็คือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โดยย้ายไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 10 ล้านยูโร ในปี 2002 และประสานงานในแดนกลางร่วมกับ โธมัส โรซิคกี้ได้อย่างลงตัว

หลังจากอยู่ในถ้ำ ‘เสือเหลือง’ 2 ฤดูกาล ในปี 2004 ฟริงส์ก็ได้ย้ายไปร่วมทีมบาเยิร์น มิวนิค คู่แข่งร่วมลีก และจดปากเซ็นสัญญาถึง 3 ปี พร้อมกับพาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ไปครองในฤดูกาลนั้นอย่างสวยงาม

หากมองแค่ภายนอกแล้ว กองกลางทีมชาติเยอรมันก็ดูประสบความสำเร็จและไปได้สวยในชีวิตค้าแข้งดี แต่ทว่าจริงๆ ฟริงส์ไม่ความสุขในทีม ‘เสือใต้’ เลย เนื่องจากตัวเขาถูก เฟลิกซ์ มากัธ กุนซือในตอนนั้น จับไปเล่นในตำแหน่งที่เขาไม่ถนัดจนฟอร์มตก ทำให้ปีต่อมา เขาเลือกย้ายกลับเล่นให้ทีม ‘นกนางนวล’ อีกครั้ง และอยู่ยาวๆถึง 6 ปี ก่อนจะย้ายไปโกยเงินดอลล่าร์กับโตรอนโต้ เอฟซี ในเมเจอร์ลีก ซ็อคเกอร์ และแขวนสตั๊ดที่นั่นเลยในปี 2012

 

โธมัส เฮลเมอร์

Sensational 30 meter screamer! | Match of my life: Thomas Helmer - YouTube

แฟน ‘เสือเหลือง’ งงกันยกใหญ่ เมื่อทีมไปคว้าตัว โธมัส เฮลเมอร์ แข้งโนเนม จากอาร์เมเนีย บีเลเฟลด์ สโมสรในลีกรองเมืองเบียร์มาร่วมทีม แต่คำถามเหล่านั้นก็ค่อยๆหมดไป เมื่อเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมคุมเกมรับของทีมได้อย่างเหนียวแน่นและมั่นคง แถมยังเล่นได้หลากหลายตำแหน่งในแผงหลังไม่ว่าจะเป็น กองหลัง, สวีปเปอร์ หรือแม้กระทั่งกองกลางตัวรับ

ขวัญใจสาวก ‘เบเฟาเบ’ เล่นในถิ่นเวสต์ฟาเลน สตาดิโอน 6 ปี ก็ขอขึ้นบัญชีย้ายทีมเพื่อหาความท้าทายใหม่ ซึ่งทีมที่เล็งตัวเขาไว้ก็คือ บาเยิร์น มิวนิค แต่ทว่าสโมสรไม่ต้องการขายเฮลเมอร์ให้กับทีมร่วมลีกเช่นกัน จึงตัดสินใจขายให้กับโอลิมปิค ลียง ที่ยื่นข้อเสนอมาพร้อมๆกันแทนในปี 1992 แต่หลังจากนั้นไม่ถึง 3 เดือน โอแอล ก็ขายเฮลเลอร์ให้กับ ‘เสือใต้’ ด้วยค่าตัวสูงถึง 7.5 ล้านยูโร โดยที่เขายังไม่ได้ลงเล่นให้กับทีมแดนน้ำหอมแม้แต่นัดเดียว จนทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องดราม่าครั้งใหญ่ในวงการลูกหนังเมืองเบียร์อยู่ไม่น้อย และส่งผล แบร์ตี้ โฟกท์ส กุนซือทีมชาติเยอรมัน ณ ตอนนั้น ต้องหั่นชื่อ เฮลเมอร์ พ้นทัพทีมชาติเยอรมันชุดสู้ศึกยูโร 1992 ไปเลย เพื่อลดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนบอลทั่วประเทศ (ที่ไม่ใช่แฟนบอลบาเยิร์น)

แม้จะมีเสียงก่นด่าและสาปส่งจากแฟนบอลดอร์ทมุนด์ให้หมดอนาคตในอาชีพค้าแข้งไปเลย แต่ทว่าเฮลเลอร์ก็ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ลีกและบอลถ้วยในประเทศมากมายกับยอดทีมแคว้นบาวาเรียได้อย่างงดงามและได้กลายเป็นกัปตันทีม ‘เสือใต้’ ในช่วงปลายยุค 90 แต่ทว่าในบั้นปลายอาชีพ เขาก็หมดสภาพกองหลังจอมแกร่ง เมื่อย้ายไปดับอยู่กับซันเดอร์แลนด์ในพรีเมียร์ลีก ก่อนจะแขวนสตั๊ดไปแบบช้ำๆในปี 2000

 

คริสเตียน แนร์ลิงเกอร์

Christian Nerlinger heute - Die Karriere des Mittelfeldmannes | News

คริสเตียน แนร์ลิงเกอร์อาจจะเกิดในเมืองดอร์ทมุนด์ แต่ทว่าเขาเริ่มต้นฝึกวิชาลูกหนังตั้งแต่อายุ 13 ปีกับบาเยิร์น มิวนิค สโมสรยักษ์ใหญ่ในประเทศ และด้วยฝีเท้าที่โดดเด่นเกินเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกัน ทำให้เขาได้เลื่อนขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ในปี 1992 ขณะมีอายุได้ 19 ปี

ในอีก 3 ปีต่อมากองกลางชาวเยอรมันก็ก้าวขึ้นเป็นตัวหลักของทีมเต็มตัว พร้อมพาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีก้าในฤดูกาล 1993-94 และ ฤดูกาล 1997-98 รวมไปถึงแชมป์เดเอฟเบ โพคาลปี 1998 และแชมป์ยูฟ่า คัพ 1995 ด้วย

 แนร์ลิงเกอร์อยู่กับพี่เสือมานานถึง 6 ปีเต็มๆ เขาก็ตัดสินหาความท้าทายใหม่ด้วยการย้ายกลับไปเล่นให้ทีมในเมืองเกิดอย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในปี 1998 แต่ทว่าตลอด 3 ปีในทีมเสือเหลือง อาการบาดเจ็บค่อยรบกวนอยู่บ่อยครั้งจนทำให้เขาไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งได้เหมือนสมัยที่อยู่กับบาเยิร์น มิวนิค และยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น หลังย้ายไปอยู่กลาสโกว์ เรนเจอร์ เมื่อปี 2001 หรือ ไกเซอร์สเลาเทิร์นในปี 2004  ส่งผลให้เขาต้องปิดฉากอาชีพค้าแข้งด้วยเพียง 33 ปีเท่านั้น

 

อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์

News :: DFB - Deutscher Fußball-Bund e.V.

อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ คือหนึ่งในกุนซือที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดประวัติศาสตร์ฟุตบอลเยอรมนี หลังมี 2 ปีที่ยอดเยี่ยมกับ เอฟซี ซูริค เขาก็ได้โอกาสคุม ดอร์ทมุนด์ ในปี 1991

เจ้าของฉายา ‘ท่านนายพล’ ปังสุดๆกับ เสือเหลือง หลังคว้าแชมป์ บุนเดสลีก้า ในปี 1995 และ 1996 รวมไปถึง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 1997 อีกทั้งยังทำทีมด้วยการสไตล์การเล่นที่น่าดึงดูดด้วยเกมรุกแบบเต็มขั้น และนั่นทำให้ บาเยิร์น ตัดสินใจกระชากไปคุมทีมเมื่อปี 1998

กับทีม เสือใต้ ฮิตซ์เฟลด์ ก็ประสบความสำเร็จยิ่งกว่าเดิมด้วยการกวาดแชมป์ลีกถึง 4 สมัย, แชมป์ เดเอฟเบ โพคาล อีก 3 สมัย รวมไปถึง แชมป์ UCL ในปี 2001 และลาทีมในปี 2004 แต่ก็กลับมาคุมทีมอีกรอบในฤดูกาล 2007-08 พร้อมคว้าแชมป์ลีกเมืองเบียร์เพิ่มอีก 1 สมัย

 

โธมัส ทูเคิ่ล

Bayern-DNA verpflichtet: Tuchel fühlt positiven Triple-Druck

โธมัส ทูเคิ่ล กลายเป็นกุนซือรายที่ 2 ต่อจาก อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ ที่ได้คุมทั้ง ดอร์ทมุนด์ และ บาเยิร์น หลังเพิ่งแต่งตั้งเป็นนายใหญ่คนใหม่ของ เสือใต้ แทนที่ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ในช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา

ทูเคิ่ล เริ่มต้นงานด้านกุนซือตั้งแต่ปี 2000 ด้วยการคุมทีมเยาวชนของ สตุ๊ตการ์ท ก่อนได้โอกาสมาคุม เอาก์สบวร์ก ชุดสำรองในปี 2007-2008 และด้วยผลงานที่เข้าตาทำให้ได้รับงานกุนซือชุดใหญ่หนแรกกับ ไมนซ์ 04 ในปี 2009

และด้วยสไตล์การคุมทีมที่ชัดเจน เน้นเกมรุกและการครองบอล อีกทั้งอายุอานามไม่มาก ทำให้ ทูเคิ่ล ได้คุมทีมที่ใหญ่ขึ้นอย่าง ดอร์ทมุนด์ ในปี 2015 แทนที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ลาสโมสรไป ซึ่งประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งด้วยการคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ในปี 2017 แต่สุดท้ายก็แยกทางกับทีมในซัมเมอร์นั้น หลังมีความเห็นตรงกันในการสร้างทีมกับบอร์ดเบื้องบน

ต่อมา ทูเคิ่ล ก็ย้ายไปคุม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง พร้อมคว้าแชมป์ลีกเอิง 2 สมัยติด แชมป์ เฟรนช์ คัพ รวมไปถึงเข้าชิงใน แชมเปี้ยนส์ลีก แต่ก็ถูกปลดหลังมีปัญหากับบอร์ดสโมสรอีกครั้ง ก่อนย้ายไปคุม เชลซี และคว้าแชมป์ UCL ในปี 2021 ทว่าสุดท้ายก็ถูกปลดในช่วงปลายปี 2022

หลังว่างงานราวๆ 6 เดือน ทูเคิ่ล ก็ได้งานใหม่ด้วยการคุม ‘เสือใต้’ และประเดิมการคุมทีมนัดแรกด้วยการเตรียมดวลกับ เสือเหลือง ทีมเก่า ในวันที่ 1 เมษายน นี้

 

มัทธิอัส ซามเมอร์ 

Where do the powerful talents of Matthias Sammer rank in German football?

กรณีของ มัทธิอัส ซามเมอร์ อาจพิเศษกว่าทุกคนในลิสต์นี้ เนื่องจากเขาไม่ใช่นักเตะและกุนซือที่เคยอยู่ทั้ง 2 ทีม แต่ก็เคยทำงานให้กับทั้ง 2 สโมสรในฐานะผู้บริหารมาแล้วเช่นกัน

แม้ลงเล่นให้ ดอร์ทมุนด์ เพียง 5 ปี แต่เขาก็เป็นตำนานของสโมสรอย่างแท้จริง หลังมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีก้า 2 สมัย และแชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัยในยุค 90 ก่อนแขวนสตั๊ดกับสโมสรในปี 1998 

อีกทั้งยังเคยคุมทีม เสือเหลือง ด้วย แถมประสบความสำเร็จพอสมควรกับการคว้าแชมป์ลีกเมืองเบียร์ในฤดูกาล 2000-01 จากนั้นก็ย้ายไปคุม สตุ๊ตการ์ท อีกทีมเก่าสมัยค้าแข้ง ในฤดูกาล 2004-05 และหลังจากนั้นก็ไม่คุมทีมอีกเลย

แต่ถึงอย่างนั้น ซามเมอร์ ก็ยังวนเวียนอยู่ในวงการลูกหนัง ทั้งทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการกีฬาและ ผู้จัดการอคาเดมี่ของทีมชาติเยอรมนี จากนั้นก็ได้ย้ายไปเป็นผู้อำนวยการกีฬาของ บาเยิร์น มิวนิค และอำลาตำแหน่งนี้ในปี 2016 หลังมีอาการความผิดปกติของการไหลเวียนโลหิตในสมอง

ปัจจุบัน ซามเมอร์ในวัย 55 ปี ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการจัดการให้ทั้ง ดอร์ทมุนด์ และทัพ ‘อินทรีเหล็ก’ 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ยุค 7 สาวน้อยคัมแบ็ค! วงการบอลเลี่ยนที่กำลังกลับมา
ยุค 7 สาวน้อยคัมแบ็ค! วงการบอลเลี่ยนที่กำลังกลับมา