วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2562
ชิงแชมป์ สโมสรโลก
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) -VS- ฟลาเมงโก้ (บราซิล)
เวลา : 00:30 น.
สนาม : คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม, โดฮา, กาตาร์ (สนามกลาง)
ถ่ายทอดสด : –
เรตราคาไทย : ลิเวอร์พูลต่อหนึ่งลูก
ผลการพบกันทั้ง 2 ทีม
ไม่เคยพบกัน
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
19/12/19 ชนะ มอนเตร์เรย์ 2-1 (สนามกลาง) ชิงแชมป์สโมสรโลก
18/12/19 แพ้ แอสตัน วิลล่า 0-5 (เยือน) คาราบาว คัพ
14/12/19 ชนะ วัตฟอร์ด 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
11/12/19 ชนะ ซัลซ์บวร์ก 2-0 (เยือน) ยูฟ่า ชปล.
07/12/19 ชนะ บอร์นมัธ 3-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
18/12/19 ชนะ อัล ฮิลาล 3-1 (สนามกลาง) ชิงแชมป์สโมสรโลก
09/12/19 แพ้ ซานโตส 0-4 (เยือน) ซีรี่ส์ เอ
06/12/19 ชนะ อาไว 6-1 (เหย้า) ซีรี่ส์ เอ
02/12/19 ชนะ พัลเมรัส 3-1 (เยือน) ซีรี่ส์ เอ
28/11/19 ชนะ เซียร่า 4-1 (เหย้า) ซีรี่ส์ เอ
สภาพทีมโดยทั่วไป
“หงส์แดง” ผ่านเข้ามาเล่นในรอบนี้หลังจากที่เอาชนะ มอนเตอร์เรย์ 2-1 ในรอบตัดเชือก ได้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ สวมบทซูเปอร์ซับยิงประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บพาทีมล่าแชมป์สโมสรโลกสมัยแรก
เจอร์เก้น คล็อปป์ มีปัญหา 2 อย่างในเกมนี้ คือต้องเช็กฟิตของ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังตัวเก่งที่ไม่ได้เล่นในเกมที่แล้วกับ มอนเตอร์เรย์ เนื่องจากมีอาการป่วย เช่นเดียวกับอาการบาดเจ็บของ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม กองกลางชาวดัตช์ที่เดี้ยงมาจากเกมลีกกับ วัตฟอร์ด ก่อนมากาตาร์
อาการของ ฟาน ไดค์ ไม่น่าห่วงเท่า ไวนัลดัม เพราะลงซ้อมได้ในวันศุกร์ แต่ ไวนัลดุม ชวดซ้อม
การกลับมาของ ฟาน ไดค์ จะทำให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ถูกขยับกลับไปเล่นในแดนกลาง ประสานงานกับ นาบี เกอิต้า ที่กำลังเล่นดี อีกโควต้าถ้า ไวนัลดุม ไม่พร้อมก็จะเป็น แชมเบอร์เลน ตามเดิม
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ทำแอสซิสต์ที่ 20 ในเกมที่แล้ว จะกลับมาเป็นตัวจริง หลังเป็นสำรองในเกมที่แล้ว เช่นเดียวกับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เจ้าของประตูชัย แทนที่ ดิว็อค โอริกี
ฟลาเมงโก้ แชมป์จากโซนอเมริกาใต้ ผ่านเข้ามาเล่นในรายการนี้เป็นครั้งแรก โดยเข้าชิงมาได้หลังเอาชนะ อัล ฮิลาล 3-1
เทรนเนอร์ จอร์จ เชซุส จอมเก๋า เตรียมส่งทีมลงเล่นในระบบ 4-2-3-1 แนวรับมี 2 ประสบการณ์ระกับยุโรปอย่าง ราฟินญ่า อดีตแนวรับบาเยิร์น มิวนิค ประจำการคนละฟากกับ ฟิลิเป้ ลุยส์ ที่เคยเล่นกับ แอต.มาดริด
กลางสนามเกมนี้เตรียมเรียกให้ ดีเอโก้ รีบาส อดีตมิดฟิลด์แอต.มาดริด, โวล์ฟสบวร์ก, เบรเมน กลับมาเป็นตัวจริง
ตำแหน่งหมายเลข 10 เป็นสัมปทานของ จอร์จาน เด อาร์ราสกาเอต้า ดีกรีทีมชาติอุรุกวัย ประสานงานกับ เอแวร์ตอน ริเบยโร่ ทำเกมสนับสนุน กาเบรียล บาร์โบซ่า หัวหอกตัวเก่งของทีม
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, โจ โกเมซ, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – อเล็กซ์ อ็อกซ์เล็ด-แชมเบอร์เลน (จอร์จินโย่ ไวนัลดุม), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, นาบี เกอิต้า – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์
ฟลาเมงโก้ (4-2-3-1) : ดีเอโก้ อัลเวส – ราฟินญ่า, ปาโบล มารี, โรดรีโก้ ไคโย่, ฟิลิเป้ ลุยส์ – ดีเอโก้ รีบาส, วิลเลี่ยน อาเรา – เอแวร์ตอน, จอร์จาน เด อาร์ราสกาเอต้า, บรูโน่ เอ็นรีเก้ – กาเบรียล บาร์โบซ่า
เทรนเนอร์ : จอร์จ เชซุส
ความน่าจะเป็นของเกม
การมีอยู่และไม่มีของ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ สำคัญกับ ลิเวอร์พูล มาก เพราะนัดที่แล้วหายไปนี่เกมรับเล่นกันไม่ชัวร์ แต่เมื่อกลับมาได้ในเกมนี้เชื่อว่าช่วยทีมคุมเกมรับได้นิ่งกว่าเดิม และทำให้แนวรุกเล่นกันอย่างไม่ต้องกังวล ซึ่งแดนหน้าของหงส์แดงจัดจ้านเหมือนเดิม เชื่อว่าจะสามารถเช็กบิลเอาชนะ ฟลาเมงโก้ ไปได้ตามเรต วางแชมป์ยุโรปได้เลย
สกอร์ที่คาด : ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) ชนะ ฟลาเมงโก้ (บราซิล) 1-0//2-1
เชียร์บอลฟันธง : ฟลาเมงโก้ ฝันดี
หรือ ติดตาม ที่เด็ดจากเฮียซ้ง @tdedballvip
หรือ ติดตาม ได้ที่ เพจ http://bit.ly/zeanzean