แพงไปก็ไม่เกี่ยง : ทำไมอันโตนี่ถึงเหมาะกับผีในมือเทน ฮาก?

“แน่นอนว่าผมหวังว่าเขาจะกลายเป็นดาวเด่นคนต่อไปของ อาแจ็กซ์” นี่คือคำพูดของ เอริค เทน ฮาก สมัยที่กุมบังเหียน อาแจ็กซ์ เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สโมสรเพิ่งคว้า อันโตนี่ ปีกดาวรุ่งจาก เซา เปาโล ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์

“เราทุกคนในอาแจ็กซ์ พยายามมุ่งมั่นเพื่อจุดสูงสุดเสมอ ดังนั้นผมจึงคาดหวังว่าเขาจะทำเต็มที่ที่สุดเพื่อไปถึงระดับที่คาดหวังไว้ ส่วนที่เหลือนั้นเราจะได้เห็นในอนาคตแน่นอน”

กุนซือชาวดัตช์ พูดถึงในเรื่องนี้ เพราะถึงแม้ ปีกชาวบราซิลเลี่ยน ย้ายมาเล่นในอัมสเตอร์ดัม ด้วยวัยเพียง 19 ปีในตอนนั้น แต่เขาก็ใช้เวลาเพียงไม่นานในการก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของ อาแจ็กซ์ เพียงแต่หลายคนอาจไม่ได้คิดเช่นกันว่าวันหนึ่ง ETH จะพาเขามาร่วมงานกันอีกครั้งที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ด้วยวัย 22 ปี อันโตนี่ ทำไปแล้ว 25 ประตูจาก 82 นัดให้ อาแจ็กซ์ ในทุกรายการ พร้อมติดทีมชาติบราซิลชุดใหญ่เรียบร้อย ทว่าค่าตัวที่ ‘ปีศาจแดง’ ยอมทุ่มเพื่อคว้าตัวเขามาร่วมทีมถึง 86 ล้านปอนด์ ย่อมสร้างความสงสัยข้องใจให้กับหลายคนไม่น้อย ว่าการลงทุ่มครั้งนี้จะคุ้มค่าหรือไม่?

 

แข้งคู่ใจของ ETH

การมาของ อันโตนี่ ยัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถูกตั้งคำถามเรื่องความคุ้มค่าอย่างเลี่ยงไม่ได้แน่นอน แต่ในสายตาของ เทน ฮาก ที่ปลุกปั้นเขาขึ้นมา ย่อมมองว่าดีลนี้จะต้องคุ้มค่าอย่างแน่นอน

ย้อนกลับไปช่วง 2 ปีก่อนที่เขาย้ายมา อาแจ็กซ์ ปีกชาวบราซิลเลี่ยน เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ แต่หลายๆอย่างยังดิบเกินไป และต้องได้รับการขัดเกลาพอสมควร เห็นได้ชัดจากสมัยที่เล่นให้ทีมชาติบราซิล ชุด U-23 ซึ่งกำลังลุ้นไปโอลิมปิกให้ได้ 

ส่วนใหญ่ในรอบคัดเลือก เขาคือตัวเลือกแรกๆเสมอของ ทัพ ‘เซเลเซา’ ชุดนั้น แต่ในเกมดวลกับ อาร์เจนติน่า ที่ต้องชนะให้ได้ เขาถูกดร็อปเป็นครั้งแรก เนื่องจากการเล่นเป็นปีกขวาแบบมิติเดียว ที่พยายามลากตัดเข้าในเพื่อยิงด้วยซ้ายข้างถนัดบ่อยๆ ซึ่งบางครั้งก็ทำให้จังหวะเกมรุกของทีมเสียเช่นกัน

แต่เมื่อได้ร่วมงานกับ เทน ฮาก ดาวเตะวัย 22 ปี ก็พัฒนาขึ้นชัดเจน ทั้งสามารถเล่นเป็นปีกได้ทั้ง 2 ข้าง, การตัดสินใจที่ดีขึ้นว่าควรจบเองตอนไหนหรือควรออกบอลเมื่อไหร่ และพร้อมลงมาช่วยเกมรับเสมอ

แม้เลื่อนขั้นไปเล่นทีมชาติบราซิลชุดใหญ่แล้ว โดยยิงไป 2 ประตูจาก 9 นัด ภายใต้การดูแลของ ตีเต้ ที่เปรียบเทียบว่าเขามีเทคนิคคล้ายกับ เนย์มาร์ สตาร์รุ่นพี่จาก เปแอสเช แต่ตัวเลขต่างๆของเขาในอาแจ็กซ์ ก็ไม่ได้โดดเด่นชัดเจนขนาดนั้น

เขาไม่เคยยิงได้แตะเลข 2 หลักตลอด 2 ฤดูกาลหลังสุดในเอเรดิวิซี่ โดยยิงรวมกันเพียง 18 ลูก รั้งอันดับที่ 18 ของนักเตะในลีกสูงสุดแดนกังหันในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ขณะที่โอกาสยิงประตู (147 ครั้ง) และ การสร้างโอกาส (75 ครั้ง) ก็ไม่ติด 10 อันดับแรกด้วย

แต่ถึงอย่างนั้น สำหรับ เทน ฮาก ก็มองว่า ปีกแซมบ้า มีพัฒนาการที่สูงขึ้นชัดเจน โดยเฉพาะในเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก หลังพาทีมผ่านรอบ 16 ทีมสุดท้าย พร้อมทำไป 2 ประตูกับ 4 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 7 นัดในรายการนั้น

ซึ่งความเชื่อใจที่ กุนซือชาวดัตช์ มีให้ต่อดาวเตะชาวบราซิลเลี่ยน ก็ทำให้เขามีความมั่นใจในการเล่นมากขึ้น และพร้อมทุ่มเทเพื่อตอบแทนความไว้เนื้อเชื่อใจที่ เทน ฮาก มาให้

“ทุกๆคนที่เล่นภายใต้การดูแลของเขา กลายเป็นนักเตะที่ดีขึ้นผ่านการฝึกซ้อมของเขา” แข้งจากอเมริกาใต้ กล่าวกับ De Telegraaf

“นับตั้งแต่ผมเข้ามา เขาทำให้ผมมั่นใจมากขึ้น และเชื่อมั่นว่าผมสามารถทำอะไรได้ ผมซาบซึ้งกับสิ่งนั้นอย่างมาก ผมเคารพเขาจริงๆ”

 

ทำไมค่าตัวถึงสูงเกินจริง?

เทน ฮาก มั่นใจว่าสามารถพัฒนา อันโตนี่ ได้มากกว่านี้ หากได้ร่วมงานกับอีกครั้งที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพียงแต่ แมนฯ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องจ่ายเงินหนักมากเป็นพิเศษเพื่อทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น

ก่อนหน้านี้ ‘ปีศาจแดง’ ได้คว้าเพื่อนเก่าของเขาที่ อาแจ็กซ์ อย่าง ลิซานโดร มาร์ติเนซ มาแล้ว ด้วยค่าตัว 56.7 ล้านปอนด์ ซึ่งการที่ แนวรับทีมชาติอาร์เจนติน่า เหลือสัญญาถึงปี 2027 ทำให้ทีมจากอัมสเตอร์ดัม สามารถเรียกค่าตัวได้สูงกว่าปกติได้ ทั้งๆที่มีราคาค่าตัวประเมินราวๆ 27 ล้านปอนด์เท่านั้น จากการอ้างอิงของ transfermarkt เว็บไซต์บันทึกสถิติด้านการซื้อขาย

นอกจากนี้ มาร์ติเนซ ก็ไม่ใช่แกนหลักคนเดียวที่ อาแจ็กซ์ เสียไปในซัมเมอร์นี้ เเพราะก่อนหน้านี้ยังเสียทั้ง เซบาสเตียน อัลแลร์ ให้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัว 28 ล้านปอนด์ รวมไปถึง ไรอัน กราเวนเบิร์ค ที่ย้ายไป บาเยิร์น มิวนิค ด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์

การปล่อย แปร์ ชูร์สให้โตริโน่ (8 ล้านปอนด์) และนิโคลัส ตาเกลียฟิโก้ ให้ โอลิมปิก ลียง (3.8 ล้านปอนด์) ทำให้ อาแจ็กซ์ มีรายรับจากการขายนักเตะแตะหลัก 100 ล้านปอนด์ในซัมเมอร์นี้ เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องหาเงินมาเพิ่ม หรือเร่งรีบเพื่อขาย ปีกวัย 22 ปีเช่นกัน

แต่ด้วยการที่คู่ค้าอีกเป็นฝ่ายเป็นทีมอย่าง แมนฯยูไนเต็ด ทำให้ อาแจ็กซ์ สามารถเพิ่มข้อต่อรองได้ อีกทั้งการที่ เทน ฮาก แสดงความต้องการอยากได้ศิษย์เก่าไปร่วมงานด้วย ก็ทำให้ดีลนี้มีค่าตัวสูงเกินจริงกว่าที่ควรจะเป็นหลายเท่าตัวเลย

จากการอ้างอิงของ transfermarkt ระบุว่า ดาวเตะทีมชาติบราซิล มีค่าตัวประเมินในตอนนี้แค่ 30 ล้านปอนด์เท่านั้น ทำให้ค่าตัวของเขาในการย้ายไป ยูไนเต็ด สูงกว่าราคาประเมินแน่นอน แต่เงินร่วมๆ 86 ล้านปอนด์ที่ ทีมจากแมนเชสเตอร์ เสียไปจะคุ้มค่าหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไปหลังจากนี้

 

บทบาทไหนเหมาะกับ ปีศาจแดง?

อันโตนี่ เป็นปีกที่สามารถเล่นทั้ง 2 ฝั่ง ความสามารถอันหลากหลาย ไม่แปลกที่เขาจะกลายเป็นตัวเลือกที่ดูเหมาะสมทั้งกับ เทน ฮาก และ แมนฯยูไนเต็ด แต่ตำแหน่งที่เขาถนัดที่สุดคงหนีไม่พ้น ฝั่งขวา ซึ่งทำให้เขาสามารถลากตัดใน เพื่อทำประตูด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดได้

โอกาสยิงประตูส่วนใหญ่ของเขาล้วนมาจากการเล่นในตำแหน่งนั้น แต่เขาก็สามารถสร้างโอกาสให้คนอื่นได้เช่นกัน จากการครอสด้านข้าง หรือเลี้ยงเข้าไปในกรอบเขตโทษ และตัดเข้าในให้เพื่อนร่วมทีมเข้าชาร์จบริเวณหน้าปากประตู

จริงๆ ‘ปีศาจแดง’ มีตัวเลือกในตำแหน่งริมเส้นให้ใช้งานพอสมควรแล้ว แต่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ถนัดการเล่นในฝั่งซ้ายมากกว่า ขณะที่ เจดอน ซานโช่ ที่เล่นเป็นปีกขวา ตลอด 3 นัดแรกในพรีเมียร์ลีกก็สามารถปรับมาเล่นอีกฝั่งได้ เช่นเดียวกับ แอนโธนี่ เอลังก้า 

ด้วยการความที่ แรชฟอร์ด สามารถโยกไปเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าได้ เช่นเดียวกับ อองโตนี่ มาร์กซิยาล และหาก เทน ฮาก ยังเลือกมองข้ามการใช้งาน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ .กับตำแหน่งหัวหอกในเกมต่อๆไป ก็มีโอกาสไม่น้อยที่จะได้เห็น ปีกคนใหม่ เริ่มต้นกับทีมในตำแหน่งปีกขวา

อีกทั้งมีเหตุผลที่จะเชื่อว่า ดาวเตะทีมชาติบราซิล สามารถเข้ากับสไตล์และตำแหน่งการเล่นในทีมใหม่ได้ เนื่องจากเขามีความเข้าใจอย่างมากเกี่ยวกับแนวทาง, แทคติกและระบบที่ เทน ฮาก ต้องการในทีม เหมือนที่ มาร์ติเนซ เพื่อนเก่าของเขาใน อาแจ็กซ์ เข้าใจ

นอกจากนี้ ดาวเตะวัย 22 ปี ยังมีลักษณะที่เหมาะกับการเล่นเกมโต้กลับในทีม ‘ปีศาจแดง’ อย่างยิ่ง ทั้งความรวดเร็ว ความคล่องแคล่ว และเทคนิคในการลากเลื้อย จึงจินตนาการได้ไม่ยากว่าเขาจะมีส่วนสำคัญในเกมรุกในรูปแบบนี้ไม่แพ้การจู่โจมแบบอื่นๆ

ที่สำคัญ เทน ฮาก ยังต้องการนักเตะในแนวรุกที่สามารถเพรสซิ่งในแดนคู่แข่งได้ดี และในสมัยที่คุม อาแจ็กซ์ ดาวเตะลูกหม้อของ เซา เปาโล ก็โดดเด่นสุดๆในด้านนี้ เพราะตลอดช่วงเวลาใน เอเรดิวิซี่ มีเพียง 5 คนเท่านั้นที่เอาบอลกลับมาครองได้จากคู่แข่งในแดนสุดท้ายมากกว่าเขา

นี่กลายเป็นอีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ETH ต้องการให้ศิษย์เก่ารายนี้ของเขามาร่วมงานกันอีกครั้งที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เหมือนที่เขาทำใน อัมสเตอร์ดัม ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา

ค่าตัวระดับใกล้เคียง 90 ล้านปอนด์ ย่อมสร้างแรงกดดันและความคาดหวังมากกว่าสมัยที่เล่นให้ อาแจ็กซ์ หลายเท่าตัว แต่ อันโตนี่ คงพร้อมลุยอย่างไม่หวั่นเกรง ตราบใดที่มี เทน ฮาก คอยช่วยเหลือหนุนหลังเขาเหมือนที่เคยเป็นมาเสมอ

 

บทความที่เกี่ยวข้อง