ทำเพื่อทีม : มูรินโญ่กับวีรกรรมแอบยูฟ่าในถังผ้าช่วงคุมสิงห์

ทำเพื่อทีม : มูรินโญ่กับวีรกรรมแอบยูฟ่าในถังผ้าช่วงคุมสิงห์

แม้ผลงานในปัจจุบันของ โชเซ่ มูรินโญ่ ไม่ได้ยอดเยี่ยมเช่น 10 ปีก่อน แต่ถึงเขาเป็นหนึ่งในกุนซือที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการฟุตบอลเคยมีมา พร้อมกับวีรกรรมที่แสบสันต์กว่าเพื่อนร่วมอาชีพหลายเท่า

แน่นอนว่า ‘เดอะ สเปเชียล วัน’ ได้สร้างสีสันให้กับวงการอย่างที่ไม่เคยมีกุนซือคนไหนเป็นหรือเคยทำมาก่อน เช่นการพา ปอร์โต้ เป็นม้ามืดคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกไปครองในปี 2004 ก่อนย้ายมาคุมทีมในอังกฤษกับ เชลซี ซึ่งประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน

กุนซือชาวโปรตุกีส พา ‘สิงห์บลูส์’ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัยในช่วงแรกของเขากับสโมสร รวมถึงแชมป์เอฟเอ คัพ 1 สมัย และลีก คัพ อีก 2 สมัย แม้น่าเสียดายที่ไม่สามารถพาทีมชูถ้วยบิ๊กเอียร์ได้ตลอด 3 ฤดูกาลแรกในสแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่เรื่องราวสุดปั่นยามที่เขาคุมทีมในฟุตบอลยุโรป ก็เป็นที่จดจำของแฟนบอลยุคนั้นได้เป็นอย่างดี

หนึ่งในนั้นคือการแอบเข้าไปในถังผ้าของสโมสรเพื่อคุยกับลูกทีมในห้องแต่งตัว ทั้ง ๆ ที่สหพันธ์ลูกหนังยุโรปแบน ในเกมกับ บาเยิร์น มิวนิค ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2005 

UFA ARENA จึงขอพาทุกท่านไปย้อนรำลึกถึงหนึ่งในวีรกรรมสุดปั่นที่ มูรินโญ่ เคยสร้างเอาไว้ในศึกลูกหนังเวทียุโรปถ้วยใหญ่ผ่านบทความนี้

 

สาเหตุโดนแบน

Jose Mourinho Discusses Hiding in Laundry Basket as Chelsea Manager to  Avoid Ban | News, Scores, Highlights, Stats, and Rumors | Bleacher Report

เชลซี กลายเป็นสโมสรเงินถุงเงินถังมากที่สุดในอังกฤษทันที หลังการเทคโอเวอร์ของ โรมัน อับราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย แต่แม้จะทุ่มเงินมากเท่าไหร่ในปีแรก เคลาดิโอ รานิเอรี่ ก็ไม่สามารถบรรดาลแชมป์ให้เขาได้ จึงดึงกุนซือหนุ่มไฟแรงอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ ที่เพิ่งพา ปอร์โต้ คว้าแชมป์ยุโรป เข้าทำคุมทีมในฤดูกาล 2004-05 ทันที

และกุนซือชาวโปรตุกีส ก็ไม่ทำให้ ‘เสี่ยหมี’ ผิดหวังเมื่อคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองอย่างยิ่งใหญ่ เหนือตัวเต็งอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ อาร์เซน่อล ในตอนนั้น 

ขณะที่ในฟุตบอลยุโรปอย่าง แชมเปี้ยนส์ลีก ฟอร์มของ สิงห์บลู ในมือน้ามู ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ทั้งการคว้าอันดับหนึ่งในรอบแบ่งกลุ่ม โดยแพ้แค่เกมเดียว แถมเสียเพียง 3 ประตูเท่านั้นจาก 6 นัด

ทว่างานหนักก็รอ มูรินโญ่ และลูกทีม อยู่ เมื่อทีมของเขาจับฉลากรอบน็อคเอ้าท์ดวลกับ บาร์เซโลน่า ของ แฟรงค์ ไรจ์การ์ด และแพ้ไปก่อนในนัดแรกด้วยสกอร์ 2-1

แต่ข่าวพาดหัวหลังเกมวันนั้นกลับกลายเป็นข่าววิพากษ์วิจารณ์ของ กุนซือชาวโปรตุกีส ที่จัดเต็มใส่ กุนซือคู่แข่งชาวดัตช์ ที่มีส่วนทำให้ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าตัวเก่งถูกไล่ออก รวมมีการบุกไปพูดคุยกับ อันเดอร์ส ฟริสก์ ผู้ตัดสินในเกมนั้น เนื่องจากไม่พอใจการทำหน้าที่ตัดสินเท่าไหร่

อย่างไรก็ตาม เชลซี ก็พลิกกลับมาเข้ารอบในเกมนัดต่อมาที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ หลังเอาชนะไป 4-2 สกอร์รวม 5-4 แต่โค้ชชาวโปตุกีสถูกยูฟ่าสั่งแบน 2 เกม หลังจากไปวิจารณ์ผู้ตัดสินว่าเป่าเอื้อประโยชน์ให้ ‘อาซูลกราน่า’ 

นั่นหมายความว่า น้ามู ไม่มีสิทธิ์เข้าไปวางแผนแก้เกมและพบนักเตะในห้องแต่งตัว สำหรับเกมรอบถัดไป แต่คิดหรือว่าแค่นี้จะหยุด ‘เดอะ สเปเชียล วัน’ ได้?

 

พบลูกทีมผ่านถังผ้า

Mourinho finally admits infamous laundry basket incident as Chelsea boss...  and says he was close to death | The Sun

แม้ผ่านถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย เชลซี ก็ต้องเจอกับของแข็งไม่ต่างจาก บาร์ซ่า นั่นก็คือ บาเยิร์น มิวนิค ยอดสโมสรจาก บุนเดสลีก้า ที่เพิ่งเอาชนะ อาร์เซน่อล ในรอบก่อน แถมพวกเขาจะไม่มี กุนซือแดนฝอยทองคอยชี้นิ้วสั่งการณ์ในสนามด้วย

อย่างที่ทราบกันดีว่า เจ้าของ ฉายา ‘เดอะ สเปเชียล วัน’ จะไม่อยู่คุมทีมทั้ง 2 นัด และคาดว่าคงนั่งดูเกมอยู่ที่ไหนซักแห่ง ภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวดว่าเขาถูกห้ามไม่ให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ฝึกสอนของเขาในระหว่างเกมเด็ดขาด

อย่างไรก็ตาม กุนซือวัย 58 ปี กลับไม่ยอมให้บทลงโทษนั้นขวางเขาจากการพบลูกทีม ด้วยการเดินทางมาที่สนามตั้งแต่ตอนกลางวัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ของยูฟ่าจะเดินทางมาถึง เพื่อเข้าไปซ่อนในห้องแต่งตัวและทำการติวนักเตะทั้งในช่วงก่อนเกมและพักครึ่ง

ขณะเดียวกัน รุย ฟาเรีย ผู้ช่วยของเขาที่ทำหน้าคุมทีมแทน กลับมีลักษณะแปลกกว่าที่เคย นั่นก็คือสวมหมวกทับเอาไว้ในเกมดวล ‘เสือใต้’ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้าไม่เคยใส่เลย นั่นเป็นเพราะสิ่งที่ถูกปกปิดภายใต้หมวกใบนั้น คือหูฟังที่เขาใช้เพื่อสื่อสารกับเจ้านายอยู่

พร้อมกันนี้ ซิลวิโน่ ลูโร่ โค้ชผู้รักษาประตู ที่หายเข้าไปในอุโมงค์ 3 ครั้ง และกลับมาพร้อมกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ซึ่งแต่ละครั้งที่กลับมา เชลซี ก็มีการเปลี่ยนตัวทั้งหมดในเวลาต่อมา ก่อนที่ทีมของเขาเอาชนะไปได้ก่อน 4-2 ในเลกแรก  

แต่ไฮไลท์ของเรื่องราวสุดแสบนี้คือช่วงที่ นายใหญ่แดนฝอยทอง ต้องออกจากสนามโดยไม่ให้เจ้าหน้าที่ของยูฟ่าจับได้ เขาจึงกระโดดเข้าไปแอบในถังผ้าของสโมสรและให้สตาฟฟ์เข็นออกจากสนามราวกับหนังแนวสายลับหรือ โจรกรรมเรื่องหนึ่งในฮอลลีวู้ดเลยก็ว่าได้ 

ถึงพ่ายไป 3-2 ในเกมเลกสอง แต่ เชลซี ก็เข้ารอบตัดเชือกด้วยสกอร์รวม 6-5 แต่ก็มาโดน ลิเวอร์พูล คู่แข่งร่วมประเทศ เขี่ยตกรอบนี้ ไปโดยประตูผีของ หลุยส์ การ์เซีย 

 

เรื่องจริงสุดช็อค

Jose Mourinho lifts lid on laundry basket incident for first time ever |  Daily Mail Online

ณ เวลานั้นไม่มีใครทราบถึงเรื่องนี้ชัดเจน แม้มีการรายงานจากสื่อในอังกฤษ เมื่อปี 2007 ก่อนที่เวลาจะล่วงเลยผ่านไปเกิน 10 กว่าปี หลายคนที่เกี่ยวข้องจึงเริ่มออกมาพูดถึงเหตุการณ์นี้ และแน่นอนว่า มูรินโญ่ ก็ยอมเปิดปากพูดถึงเสียที

ถึงหลบหนีออกมาจากสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้อย่างปลอดภัยโดยที่ไม่ถูกเจ้าหน้าที่ของ ยูฟ่า จับได้ แต่ ‘เดอะ สเปเชี่ยล วัน’ ก็ยอมรับว่าเขาเกือบได้ลาโลกจริง ๆ จากเหตุการณ์ในวันนั้นแล้ว

“ผมเข้าไปตั้งแต่ตอนเที่ยงวัน เกมจะแข่งกันตอนหนึ่งทุ่ม ผมแค่ต้องการอยู่ในห้องแต่งตัวตอนนักเตะเดินทางมาถึง ผมจึงเข้าไปหลบในนั้น ไม่มีใครเห็นผม แต่ปัญหาคือผมจะออกมายังไง” มูรินโญ่ เล่าผ่าน beIN Sports ในปี 2019

“สจ๊วต (แบนนิสเตอร์ คนดูแลชุดแข่งของเชลซี) ให้ผมลงไปแอบในถังผ้า ถังผ้าที่เป็นเหล็ก เขาซ่อนผมไว้ในนั้น ผมเข้าไปหลบโดยแง้มฝาถังไว้นิด ๆ ผมจะได้หายใจได้ แต่เมื่อสจ๊วตเข็นออกจากห้องแต่งตัวและสนาม เขาเห็นเจ้าหน้าที่ของยูฟ่ากำลังตามหาตัวผมกันยกใหญ่”

“สจ๊วต จึงตัดสินใจปิดฝาถังทั้งที่ผมอยู่ในนั้น ผมหายใจไม่ออก ตอนที่เขาเปิดฝาขึ้น ผมเกือบตายแล้ว ผมพูดจริง ๆ นะ ผมเกือบตายแล้วจริง ๆ ผมไม่ได้ล้อเล่น ผมยืนยันได้ มันคือเรื่องจริง”

ทางด้าน จอห์น เทอร์รี่ ตำนานกองหลังสโมสรที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น ก็เล่าถึงช่วงเวลานั้นในมุมมองที่ตนเองพบเจอมาด้วย ผ่านรายการ Redknapp’s Home Fixture show

“เขาถูกแบนเกมพบ บาเยิร์น มิวนิค ชัดเจนว่าเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในสนามได้ คนดูแลชุดแข่ง ต้องพาเขาผ่านเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และช่วงครึ่งทางก่อนถึงห้องแต่งตัว เขาก็ส่งเสียงออกมาว่า ‘หายใจไม่ออกโว้ย เอาฉันออกไป! เอาฉันออกไปที!’ ” เทอร์รี่ อธิบาย

“ดังนั้น คนดูแลชุดแข่ง ต้องเร่งความเร็วพาเขาเข้ามาให้ได้ ซึ่งพวกเขาคิดว่า ผู้ช่วย มิค แม็คกิฟเว่น หรือ อังเดร วิลลาส โบอาส จะพูดอะไรกับเราช่วงพักครึ่ง จู่ ๆ เขามาถึงและโผล่พรวดออกมาทันที แถมเขายังดูดีอยู่เลย น่าเหลือเชื่อมาก ผมของเขาไม่เสียทรงเลยด้วยซ้ำ”

เรื่องราวในครั้งนี้ยังถูก มาร์ค ฮิวจ์ หยิบมาล้อเลียนขำ ๆ ในปี 2015 ในเกมที่ เชลซี พบ สโต๊ค ซิตี้ ซึ่งนายใหญ่สิงห์บลูถูกแบนเกมนั้น โดยกุนซือช่างปั้นหมอ กล่าวติดตลกให้ เอฟเอ ตรวจดูให้ ๆ ดีว่า มูรินโญ่ แอบเข้ามาหาลูกทีมผ่านถังผ้าหรือไม่ 

ฟุตบอลเต็มไปด้วยเรื่องราวแปลกประหลาดมากมายที่แฟนบอลทั้งหลายไม่สามารถคาดเดาได้เลย 

แต่ถึงอย่างนั้นก็คงมีไม่กี่เรื่องที่แปลกไปกว่าตอนที่ โชเซ่ มูรินโญ่ อยู่ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วยการแอบเข้ามาในถังผ้าแบบนี้แน่นอน

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ฤดูกาลแห่งความหวัง: ไอ้ปืนใหญ่ สู่หนทางล่าแชมป์รอบ19ปี
ฤดูกาลแห่งความหวัง: ไอ้ปืนใหญ่ สู่หนทางล่าแชมป์รอบ19ปี