คริสตัล พาเลซ ประกาศอย่างเป็นทางการว่า รอย ฮอดจ์สัน ที่ทำหน้าคุมทีมในถิ่น เซลเฮิร์ต ปาร์ค เกือบ 4 ปี จะลาตำแหน่งผู้จัดการทีมหลังจบฤดูกาลนี้
อดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษ เข้ามารับงานกับ ปราสาทเรือนแก้ว ตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2017 และพาทีมอยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีกเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยนายใหญ่วัย 73 ปี จะคุม พาเลซ เป็นเกมสุดท้าย ในนัดปิดฤดูกาล 2020-21 ที่บุกไปเยือน ลิเวอร์พูล วันที่ 23 พฤษภาคม
แต่เมื่อมีคนจากไป ก็ต้องมีคนใหม่เข้ามาแทนที่ UFA ARENA จึงขอพาไปพบกับ 5 ตัวเต็งว่าที่กุนซือใหม่ของ คริสตัล พาเลซ ที่มีโอกาสเข้ามารับช่วงต่อจาก ปู่รอย ในฤดูกาลหน้ามากที่สุด
เอ็ดดี้ ฮาว
แม้มีข่าวอย่างหนักกับ เซลติก ที่เพิ่งเสียแชมป์ลีกให้ เรนเจอร์ส แต่ ฮาว ก็คงได้อยู่ใกล้ ๆ บ้านเกิดมากกว่า ถ้าเขาเลือกย้ายไปรับงานกับ คริสตัล พาเลซ หลังวางงานนับตั้งแต่ลาทีม บอร์นมัธ ช่วงเดือนสิงหาคมปีก่อน
กุนซือวัย 43 ปี คือหนึ่งในผู้จัดการทีมรุ่นใหม่ที่โดดเด่นไม่แพ้ใครในแดนผู้ดี แม้ว่าพา ‘เดอะ เชอร์รีส์’ ตกชั้นพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลที่แล้วก็ตาม แต่เขาก็เป็นคนที่พาทีมแดนใต้ ไต่เต้าจากลีกระดับล่างจนขึ้นมาโลดแล่นในลีกสูงสุด พร้อมอยู่รอดมานาน 5 ฤดูกาล ด้วยสไตล์การเล่นที่เน้นเกมบุก สนุกไม่แพ้ใคร
อีกทั้งประสบการณ์ของ ฮาว ก็ถือว่ามีมากกว่ากุนซือรุ่นราวคราวเดียวกันเป็นพิเศษด้วย เนื่องจากเขาเริ่มต้นเส้นทางผู้จัดการทีมตั้งแต่อายุ 31 ปีเศษ ๆ เท่านั้น
ฟันธงโอกาสคุมทีม : 8/10
ฌอน ไดซ์
สตีฟ พาริช ประธานสโมสรของ ‘เดอะ อีเกิ้ลส์’ เคยเอ่ยปากชื่นชมในตัวของ ฌอน ไดซ์ นายใหญ่ของ เบิร์นลี่ย์ มาเป็นเวลานาน ซึ่งเคยมีข่าวย้ายมาคุมทีมใน เซลเฮิร์ต ปาร์ค เมื่อปี 2017
แม้กุนซือวัย 49 ปี ต้องพบเจอกับความยากลำบาก เนื่องจากงบประมาณเสริมทัพอันน้อยนิด ในถิ่น เทิร์ฟ มัวร์ แต่เขาก็สามารถพา ‘เดอะ คลาเร็ตส์’ ขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกได้ถึง 2 ครั้ง และอยู่รอดปลอดภัยมานาน 5 ฤดูกาลติดแล้ว
หาก ไดซ์ ย้ายมาคุมทีมในลอนดอน จริง เขาจะไม่มีปัญหาเรื่องงบที่จำกัดจำเขี่ยในการเสริมทัพอีกแน่นอน บวกกับการจัดการที่ยอดเยี่ยมของเจ้าตัวแล้ว ก็น่าทำให้ พาเลซ ดูมีอนาคตสดใสรออยู่ไม่น้อย
ฟันธงโอกาสคุมทีม : 8/10
แฟรงค์ แลมพาร์ด
ชื่อของ แลมพาร์ด กลายเป็นกุนซือรายแรก ๆ ที่ตกเป็นข่าวว่าจะเข้ามาเป็นนายใหญ่คนใหม่แทนที่ ฮอดจ์สัน ก่อนที่เจ้าตัวจะประกาศลาตำแหน่งอย่างเป็นทางการเสียอีก
อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ เพิ่งถูกปลดจากตำแหน่งกุนซือของ เชลซี ช่วงต้นปี 2021 หลังทำหน้าที่ได้เพียง 18 เดือนในสแตมฟอร์ด บริดจ์ โดยเขามีจุดเด่นให้เรื่องการให้โอกาสเยาวชนของสโมสรได้ฉายแสงในทีมชุดใหญ่เสมอ ซึ่งเข้ากับ พาเลซ ที่เพิ่งปรับปรุงอคาเดมี่ของสโมสรขึ้นมาใหม่ และการมาของ แลมพ์ คงช่วยให้ทีมมีแข้งดาวรุ่งให้เลือกใช้งานมากขึ้น
แต่ทว่าก็อาจติดอยู่บางเรื่อง เมื่อ อดีตกุนซือ ดาร์บี้ ยังไม่รีบร้อนหางานใหม่ในตอนนี้ หลังต้องช่วยดูแลภรรยาเพิ่งคลอดลูกชายเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ฟันธงโอกาสคุมทีม : 9/10
คริส ไวล์เดอร์
ไวล์เดอร์ เลือกลาตำแหน่งผู้จัดการทีมกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนมีนาคม และกำลังมีความสุขกับการพักผ่อนในช่วงที่ผ่านมา และชื่อของเขาก็ถูกตกให้เป็นตัวเต็งอีกคนของ คริสตัล พาเลซ หลังจบฤดูกาลนี้
ไม่แปลกที่เป็นเช่นนั้น เพราะผลงานที่น่าประทับใจกับทีม ‘ดาบคู่’ ในฤดูกาลก่อนที่เลื่อนชั้นกลับขึ้นมาพรีเมียร์ลีก ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน ทรงพลังทำให้เอาตัวรอดในลีกสูงงสุดได้แบบไม่ยากเย็น จนได้รับเสียงชื่นชมจากกูรูลูกหนังมากมาย
แม้ปิดฉากกับ เชฟฟิดล์ ยูไนเต็ด ไม่สวยเท่าไหร่ในช่วงฤดูกาลสุดท้าย แต่ ไวล์เดอร์ ก็นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับ พาเลซ กับตำแหน่งกุนซือคนใหม่เช่นกัน
ฟันธงโอกาสคุมทีม : 7/10
ราฟาเอล เบนิเตซ
ราฟาเอล เบนิเตซ เจ้าของดีกรีกุนซือผู้คว้าถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก กำลังว่างงานอยู่ หลังแยกทางกับ ต้าเหลียน อี้ฟาง สโมสรจาก ไชนีส ซูเปอร์ลีก ในเดือนมกราคม
ด้วยประสบการณ์ และความสำเร็จไม่น้อยกับ ลิเวอร์พูล, เชลซี และ นิวคาสเซิล ในพรีเมียร์ลีก ทำให้ กุนซือชาวสแปนิช เหมาะสมอย่างยิ่งในการยกระดับ พาเลซ ให้เหนือกว่าการอยู่อันดับล่าง ๆ หรือหนีกตกชั้นอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้
การพา ‘เดอะ แม็กพายส์’ อยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุด หรือเป็นขาประจำพา ‘หงส์แดง’ ไปเล่นฟุตบอลยุโรป ก็การันตีว่า ‘ปราสาทเรือนแก้ว’ คงต้องเจ๋งขึ้นกว่าเดิมแน่นอน หากได้ เอล ราฟา มากุมบังเหียนให้จริง ๆ
ฟันธงโอกาสคุมทีม : 7/10