แฟนบอลบาร์ซ่าที่ชมทีมรักตลอดฤดูกาลนี้จะพบเห็นเหตุการณ์เหล่านี้จนชินตา หลังพยายามเจาะแนวรับคู่แข่งที่ป้องกันอย่างเหนียวแน่น และเมื่อผู้ตัดสินที่ 4 ถือกระดานเปลี่ยนตัวหมายเลข 21 ขึ้นมา เฟรงกี้ เดอ ยอง ก็เดินออกจากสนามอย่างไม่มีความสุข ท่ามกลางเสียงอื้ออึงใน คัมป์ นู
เหตุการณ์ลักษณะนี้ก็ยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ และก่อนเกมที่ ถล่ม เซลต้า บีโก้ 3-1 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กองกลางดัตช์แมน ลงเล่นครบ 90 นาทีเพียง 13 จาก 33 เกมที่เขาได้ลงเล่น นับตั้งแต่ ชาบี เอร์นานเดซ เข้ามาคุมทีมในเดือนพฤศจิกายนปีก่อน
ประเด็นนี้ชัดเจนมากโดยเฉพาะในเกมที่แพ้กาดิซและราโย บาเยกาโน่ ในบ้าน เมื่อ มิดฟิลด์เจ้าของหมายเลข 21 ถูกแฟนบอลบ่นขณะที่เขาถูกเปลี่ยนตัวกลับไปม้านั่งสำรอง ซึ่ง บาร์ซ่า ก็แพ้ทั้งสองเกมนั้นด้วยสกอร์ 1-0
ในขณะเดียวกัน สื่อของคาตาลันยังคงผลักดันแนวคิดที่ว่าสโมสรกำลังมองหาการขายนักเตะวัย 25 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทั้ง 2 สโมสรจากเมืองแมนเชสเตอร์ ยื่นข้อเสนอจำนวนมากในช่วงซัมเมอร์นี้ หลังตกเป็นข่าวให้ความสนใจช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
นี่เป็นสถานการณ์ที่ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้น เมื่อ บาร์ซ่า ควักเงินกว่า 86 ล้านยูโร เพื่อคว้าดาวเตะจาก อาแจ็กซ์ ที่ ณ เวลานั้นว่ากันว่าเป็นหนึ่งในกองกลางดาวรุ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุโรป ปี 2019 แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นปัญหาที่ทุกคนในสโมสรต้องเผชิญ ทั้ง เดอ ยอง, ชาบี, ประธานสโมสรอย่าง โจน ลาปอร์ต้า และ ผู้อำนวยการกีฬา มาเตอู อเลมานี่
ที่สำคัญคำตอบของเรื่องนี้ไม่มีทางหาได้โดยง่ายแน่ๆ…
ฟอร์มยังไม่คุ้มราคา
มีการถกเถียงมานานว่าการใช้งาน เดอ ยอง ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ต้องทำอย่างไรตลอดเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา
ช่วงครึ่งทางของฤดูกาลที่แล้ว ดูเหมือนว่าโรนัลด์ คูมัน กุนซือ บาร์ซ่า จะพบวิธีแก้ปัญหาด้วยการทำให้ เฟรงกี้ มีบทบาทเกมรุกที่มากขึ้น ซึ่งทำให้เขาบุกเข้าไปในกรอบเขตโทษเพื่อทำประตูหรือจ่ายบอลเพื่อนร่วมทีม แต่แนวทางนั้นก็ประสบความสำเร็จได้ไม่นาน ทั้งตัวนักเตะหรือโค้ชเอง
เมื่อ ชาบี กลับมารับงานที่ คัมป์ นู ปัญหาดังกล่าวก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข เพราะ เซร์คิโอ้ บุสเก็ตส์ ก็ยังเป็นกองกลางแกนหลักในระบบ 4-3-3 ทำให้ เดอ ยอง ต้องเล่นในตำแหน่งที่ทำเกมรุก แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ทำผลงานน่าประทับใจนัก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ ดาวรุ่งอย่าง เปดรี้ หรือ กาบี
การส่งบอลและการยืนตำแหน่งที่เป็นธรรมชาติของ เปดรี้ ทำให้การโจมตีของทีมลื่นไหลมากขึ้น ขณะที่ กาบี ก็มีทั้งพลังงานที่ล้นเหลือพร้อมวิ่งเพื่อทีมตลอดเกม จนได้ใจเหล่ากูรูและแฟนบอล
ผิดกับ เดอ ยอง ที่ดูไม่มีส่วนสำคัญในการทำเกมบุกมากนัก ดูไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไร อีกทั้งมี 2-3 ครั้งที่เขาได้เล่นเป็นกองกลางตัวรับแทนที่ บุสเก็ตส์ ก็ทำไม่ค่อยดีเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้น ชาบี ก็ยังเน้นย้ำว่า กองกลางทีมชาติฮอลแลนด์ ยังมีความสำคัญกับทีมอยู่
“เฟรงกี้ สำคัญมากๆ เขาจะเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคของสโมสรนี้ ผมแฮปปี้กับเขาดี และเขาต้องอยู่ต่อไป เขาทั้งยิง.แอสซิสต์ และเป็นตัวสำคัญในหลายๆเกม” ชาบี กล่าวในเดือนก่อน
ไม่มีใครสงสัยในฝีเท้าของ กองกลางวัย 25 ปี เพียงแต่ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมเหล่านั้นยังไม่เกิดขึ้นเท่าไหร่ในสีเสื้อของ ‘อาซูลกราน่า’ โดย 32 เกมที่เขาลงเล่นในยุคของ ชาบี ทำไป 4 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ และผลงานที่โดดเด่นที่สุดคือเกมที่ไปเยือน นาโปลี ในศึกยูโรป้าลีก รอบเพลย์อ็อฟ เดือนกุมภาพันธ์ ด้วยการซัดไกลระยะ 20 หลาเข้าไปอย่างสุดสวย
แต่นั่นคือประตูสุดท้ายของเขา และไม่มีการทำแอสซิสต์ได้เลยใน 15 เกมหลังที่ลงเล่น เมื่อฟอร์มของทีมลดลงหลังจากชัยชนะ 4-0 ในศึก เอล กลาซิโก้ เหนือ เรอัล มาดริดเมื่อเดือนมีนาคม เสียงบ่นพึมพำก็ดังขึ้นเรื่อยๆ และยุติธรรมแล้วหรือไม่ ที่เจ้าของหมายเลข 21 ต้องแบกรับความหงุดหงิดจากแฟนบอลบาร์ซ่าเมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปด้วยดี
แอบหงุดหงิดในสนาม
ทั้งผู้เล่นและโค้ชต่างตระหนักดีว่าสิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ วิสัยทัศน์ของชาบีสำหรับทีมนั้นแตกต่างจากผู้จัดการทีมคนเก่าของเขา เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่จะให้กองกองวิ่งขึ้นไปด้านหน้ามากขึ้นในขณะที่ไม่ได้ครองบอล โดยเขาได้ให้วิดีโอที่ตัดต่อแบบพิเศษกับ เดอ ยอง เพื่อแสดงสิ่งที่เขาต้องการโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จะรับบอลและวิธีการเชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมทีม
นั่นเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับผู้เล่นคนหนึ่งที่ชอบดูเกมของตัวเองตลอดอาชีพของเขาเพื่อดูว่าเขาผิดพลาดตรงไหน แต่สำหรับนักเตะแล้วอาจรู้สึกว่าเป็นการจู้จี้จนแอบรำคาญเช่นกัน เมื่อสื่อโทรทัศน์ Movistar TV ถามหลังชัยชนะ 2-1 เหนือ มายอร์ก้า ว่าเขารู้สึกว่าได้รับการสนับสนุนจากโค้ชหรือไม่ ซึ่งคำตอบนั้นสั้นมากๆ
“เรามีการสนทนาที่ดีมาก เจ้านายบอกว่าเขามีความมั่นใจในตัวผม ดังนั้นทุกคนจึงมีความสุขดี” กองกลางวัย 25 ปี กล่าว
ทว่าน้ำเสียงและการแสดงออกทางสีหน้าไม่ได้บ่งบอกถึงความพึงพอใจ 100 เปอร์เซ็นต์ จากนั้น เขาก็ถูกถามว่ามีความคับข้องใจกับฤดูกาลนี้ของบาร์ซ่าหรือไม่ ที่จบลงโดยไม่มีถ้วยรางวัลใดๆ แลต้องต่อสู้คว้าท็อปโฟร์เพื่อคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้า
“ใช่ น่าหงุดหงิดมาก เราทำไม่ดีในปีนี้ แต่ผมหวังว่าเราจะพัฒนาต่อไปและปีหน้าจะแตกต่างออกไป”
รั้งไว้หรือขายทำเงิน?
รอบๆ คัมป์ นู มี 2 แนวคิดใหญ่เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ เดอ ยอง ในตอนนี้
อย่างแรกคือ ยังมีเวลา เพราะเขาเพิ่งอายุ 25 ปี และยังมีศักยภาพกับคุณภาพในการนำทีมอีกหลายฤดูาลกถัดไป ขณะที่อีกเสียงคือ เขาไม่เคยทำผลงานได้สมกับชื่อเสียงเมื่อย้ายมาค้าแข้งในสเปนเลย และถึงเวลาแล้วที่สโมสรจะพยายามเอาคืนเงินจำนวน 86 ล้านยูโร ที่ใช้ไปกับเขากลับมาให้ได้มากที่สุด
เมื่อประกอบกับสถานการณ์ทางการเงินของ บาร์ซ่า ในปัจจุบัน หนี้สินจำนวนมหาศาลและการดิ้นรนเพื่อให้เป็นไปตามกฎการเงินของ ลาลีก้า ก็เป็นปัจจัยสำคัญในความคิดของ ลาปอร์ต้า และ อเลมานี่ เช่นกัน
คนเบื้องบนของสโมสรเห็นว่าเป็นเรื่องที่สามารถยอมรับได้ในการขาย กองกลางดัตช์แมน ออกไป ต่างจากกรณีของ เปดรี้, กาบี้, โรนัลด์ อเราโฮ หรือ อันซู ฟาติ ที่ถ้าขายออกไปได้มีปัญหากับแฟนบอลแน่นอน
ขณะที่ผู้เล่นที่ ‘อาซูลกราน่า’ พร้อมปล่อยออกไป ไม่ว่าจะเป็น เซร์จิโญ่ เดสต์, เนโต้, มาร์ติน เบรธเวต, ซามูเอล อุมติตี้, มิราเล็ม ปานิช, เคลมองต์ ลองเล่ต์ และ เมมฟิส เดปาย ก็มีโอกาสน้อยที่สโมสรจะได้เงินในระดับที่พวกเขาต้องการในซัมเมอร์นี้ แม้ล่าสุดเพิ่งขายขาด ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ให้ แอสตัน วิลล่า ด้วยค่าตัวราวๆ 20 ล้านยูโรไปแล้วก็ตาม
ดาวเตะเบอร์ 21 และคนรอบข้างตระหนักดีถึงสถานการณ์ดังกล่าว ย้อนกลับไปในเดือนธันวาคม จอห์น พ่อของเขาบอกกับ AD สื่อในแดนกังหันว่า ว่า: “ผมรู้ว่าบาร์เซโลน่าต้องการเงิน และข้อเสนอใหญ่สำหรับเฟรงกี้สามารถช่วยได้ แต่ผมไม่เห็นว่ามันจะเกิดขึ้น”
นั่นเป็นคำพูดหลังจากที่ ลาปอร์ต้า พูดถึง กองกลางชาวดัตช์ ว่าต้องยกระดับฝีเท้าขึ้นมา ถ้าเขาต้องการมีอนาคตระยะยาวกับสโมสรแห่งนี้
ภายหลังความพ่ายแพ้ ราโย เมื่อเดือนที่แล้ว จอร์ดี้ ครัฟฟ์ เลขาธิการด้านเทคนิคของบาร์เซโลน่า กล่าวในรายการโทรทัศน์ของสเปนว่า “เดอ ยองเป็นผู้เล่นที่มีคุณค่าต่อสโมสรและตลาดอย่างมาก” จากนั้นเมื่อถูกถามว่านี่หมายถึงการขายกำลังได้รับการพิจารณาอยู่หรือไม่ ครัฟฟ์ตอบว่า: “นี่ไม่ใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่องพวกนี้ เราอยู่ที่นี่เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของสโมสร”
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าซัมเมอร์นี้จะเต็มไปด้วยเรื่องชวนปวดหัวมากมายให้รับมือ ขณะที่ อเลมานี่ ก็พยายามพัฒนาทีมภายใต้กฎการเงินที่เข้มงวดของ ลาลีก้า
ทางเลือกที่ไม่ง่าย
บาร์ซ่า จะต้องขายผู้เล่นอย่างแน่นอนเมื่อตลาดนักเตะเปิดอีกครั้ง และหากมีสโมสรที่ยื่นข้อเสนอ 70 ล้านยูโรให้กับเดอ ยอง มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับลาปอร์ต้าและอเลมานีที่จะปฏิเสธ เพราะเขาเป็นนักเตะที่มีค่าเหนื่อยสูงเป็นอันดับต้นๆในสโมสร อยู่ที่ราวๆ 11 ล้านยูโรต่อปี หลังหักภาษี
เพราะฉะนั้น ทั้งเงินที่ได้มาและค่าเหนื่อนที่หายไป สามารถนำไปลงทุนใหม่ในส่วนอื่น ๆ ของทีมซึ่งจำเป็นต้องเสริมความแข็งแกร่งจริงๆ อย่างตำแหน่ง ฟูลแบ็คและเซ็นเตอร์แบ็ค โดยไม่กระทบต่อคุณภาพโดยรวมของทีม
เป็นที่น่าสังเกตว่าแม้ว่ากองกลางจะเป็นส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดของทีม แต่ บาร์ซ่า ก็เลือกดึง ฟร็องก์ เกสซิเย่ ดาวเตะทีมชาติไอวอรี่โคสต์จาก เอซี มิลานแบบไร้ค่าตัว อีกทั้งยังเล็ง การ์ลอส โซเลร์ จากบาเลนเซีย โดยพยายามใช้ประโยชน์จากแข้งทีมชาติสเปนที่เหลือสัญญาเพียง 12 เดือนเพื่อต่อรองราคาเหลือเพียง 20 ล้านยูโร
“การเซ็นสัญญาเสริมทัพจะขึ้นอยู่กับการเงิน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเงิน นั่นเป็นเรื่องยาก แต่มันคือความจริงของเรา เราชัดเจนว่าเราต้องการจะปล่อยใครออกไป สถานการณ์ทางการเงินของสโมสรเป็นเงื่อนไขของเรา” ชาบี กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์
สโมสรที่น่าจะสนใจมากที่สุดและมีเงินที่พร้อมจะเสนอให้เดอ ยองในช่วงซัมเมอร์นี้ ต่างก็อยู่ในแมนเชสเตอร์ ทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังมองหาการเพิ่มกองกลางในฤดูร้อนนี้ เพื่อแทนที่ แฟร์นานดินโญ่ ที่จะลาทีมแน่นอนแล้ว และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังมองหาทางให้ เอริค เทน ฮาก ว่าที่กุนซือใหม่ที่ดึงมาจาก อาแจ็กซ์ ได้ร่วมงานกับลูกน้องเก่าอีกครั้งใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ส่วนที่ยากกว่านั้นอาจจะเป็นการเกลี้ยกล่อมให้ กองกลางวัย 25 ปี ย้ายออกไป ถึงแม้จะแสดงความคับข้องใจกับเรื่องในสนามเมื่อเร็วๆนี้ แต่เขาก็พูดเสมอว่าเขาสนุกกับชีวิตในเมืองหลวงของกาตาลันและต้องการอยู่ต่อ
เมื่อต้นปีนี้ เขาและ มิกกี้ คีเมนี่ย์ แฟนสาว ซื้อคฤหาสน์หลังใหม่มูลค่า 5 ล้านยูโรในเมืองย่าน เปดราลเบส อีกทั้งเป็นหนึ่งในนักเตะระดับซีเนียร์ที่ตกลงช่วยเหลือการเงินของสโมสร ด้วยการเลื่อนรับค่าจ้างเมื่อปี 2020 โดยมีสัญญากับทีมถึงปี 2026
นอกจากนี้ แหล่งข่าวที่รู้จักห้องแต่งตัวกล่าวว่าการเกลี้ยกล่อมให้เขาย้ายทีมจะเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะกับ ‘ปีศาจแดง’ ที่ลำบากในการเจรจากว่า ซิตี้ แน่นอน เนื่องจากได้ไปเล่นแค่ยูโรป้าลีกฤดูกาลหน้า
ดังนั้นจึงไม่มีวิธีแก้ปัญหาง่ายๆ ในด้านใดด้านหนึ่ง ยังคงเป็นไปได้สำหรับ ชาบี ที่จะเป็นโค้ชของ บาร์ซ่า โดยมี เดอ ยอง เป็นฟันเฟืองสำคัญในทีม แต่ก็เป็นไปได้เช่นกันที่ ลาปอร์ต้า และ อเลมานี่ เห็นตัวเลขข้อเสนอและบอกว่าพวกเขาต้องการปล่อยนักเตะรายนี้ออกไปเพื่อสมดุลทางการเงิน