นับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา เบอร์เสื้อหมายเลข 9 ของเอซี มิลาน ก็ถูกขึ้นบัญชีเป็นเบอร์อาถรรพ์ ที่ไม่ว่ากองหน้าจะเก่งมาจากไหน ก็ต้องมาดับทุกรายกับเบอร์นี้ ก่อนที่ปัจจุบันคำสาปจะถูกทำลายลง ด้วยกองหน้าที่ถูกปรามาสเรื่องฝีเท้ามาตลอดอาชีพ กองหน้าที่ย้ายเข้ามาสู่ทีมด้วยราคาแสนถูกที่ 2 ล้านยูโร
วันนี้ UFA ARENA จะพาไปทำความรู้จักทั้งอาถรรพ์หมายเลข 9 แห่งปีศาจแดงดำ และหัวหอกโกคาร์ทผู้มาทำลายคำสาปลงนาม โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
หัวหอกอันเดอร์เรท
ดาวยิงชาวฝรั่งเศสเป็นนักเตะที่มักถูกประเมินค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ด้วยความที่ไม่ใช่หัวหอกสไตล์ยิงประตูถล่มทลาย แต่เมื่อมองไปที่ภาพรวมเขาเป็นกองหน้าสายซัพพอร์ต ที่มีจุดเด่นในการพักบอล บังบอล เก็บบอล เพื่อจ่ายต่อให้เพื่อนเข้าไปยิงประตู หรือวิ่งทำทางเปิดทางสร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีม
เห็นได้ชัดจากศึกฟุตบอลโลกที่เจ้าตัวได้ชื่อว่าเป็นแชมป์โลก 0 ประตู เนื่องจากลงสนามไปทั้งหมด 7 นัด เป็นตัวจริง 6 นัดแต่ยิงประตูไม่ได้สักประตูเดียว แต่ด้วยความเก๋าที่มีทำให้เจ้าตัวกลายเป็นกาวชั้นดีในการประสานบรรดาแข้งหนุ่มไฟแรงทั้ง คิเลี่ยน เอ็มบัปเป้ , อุสมาน เดมเบเล่ และ อองตวน กรีซมันน์ ให้เล่นกันได้อย่างลื่นไหล
ซึ่งเรื่องนี้เจ้าตัวก็เคยให้สัมภาษณ์ถึงสถิติการยิงประตูของตัวเองกับทัพตราไก่บนเวทีฟุตบอลโลกว่า “เวลาที่เล่นเป็นกองหน้าแบบผม เราจะเล่นเพื่อเพื่อนร่วมทีมเสมอแน่นอนว่าผมก็อยากมีโอกาสและยิงให้ได้ แต่ถ้าผมสามารถเปิดพื้นที่ให้คนอื่นได้ ผมก็จะพยายามหาทางเลือกที่ดีที่สุดให้ทีม และนั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด” นี้ถือเป็นการแสดงทัศนคติอันยอดเยี่ยมของกองหน้าสายซัพพอร์ต ที่ลงสนามไปเล่นเพื่อทีมไม่ใช่เพื่อตัวเอง
อย่างไรก็ตามเมื่อมองไปที่สถิติการพังประตูที่เขาถูกปรามาสเอาไว้ก็ต้องบอกว่าไม่ได้ขี้เหร่เลยแม้แต่น้อย โดยในระดับสโมสรเจ้าตัวก็กดไปแล้ว 231 ประตู จาก 578 นัดรวมทุกรายการ แถมยังมีฉายาติดตัวอย่าง ‘เจ้าพ่อท่ายาก’ ที่ไม่ได้มีดีแค่ชื่อ แต่เพราะเขามักจะยิงประตูด้วยท่าทางสุดพิสดารให้เห็นอยู่บ่อยๆ เรียกว่าถ้าเขาถูกตีค่าเป็นรถโกคาร์ท ก็เป็นโกคาร์ทที่ครบเครื่องสุดๆ
หมายเลข 9 ต้องสาป
ตัดภาพมาที่เอซี มิลาน หลังจากที่ ฟิลิปโป้ อินซากี้ อำลาทีมไป หมายเลข 9 ของพวกเขาก็กลายเป็นหมายเลขต้องสาป เนื่องจากต่อจากยอดหัวหอกชาวอิตาเลี่ยน ก็ไม่มีนักเตะคนไหนที่มาสายต่อเบอร์เสื้อนี้แล้วยิงได้เกินปีละ 10 ประตูเลยแม้แต่คนเดียว ไม่ว่านักเตะรายนั้นจะชื่อดัง ฟอร์มเก่งเจ๋งมาจากไหนก็ตาม
รายนามนักเตะที่เอาชื่อมาทิ้งกับเสื้อหมายเลขนี้ก็ไล่มาตั้งแต่ อเล็กซานโดร ปาโต้ , อเลสซานโดร มาตรี้ , เฟร์นานโด ตอร์เรส , มัตเตีย เดสโตร , หลุยซ์ อาเดรียโน่ , จานลูก้า ลาปาดูล่า , อังเดร ซิลวา , กอนซาโล่ อิกวาอิน , คริสตอฟ เปียเท็ก และ มาริโอ มานด์ซูคิช
ซึ่งถ้าถามว่าคำสาปนี้มันแรงแค่ไหนก็ต้องยกตัวอย่างมากสักสองคนอย่าง ปาโต้ ที่เคยสวมเสื้อเบอร์ 7 ให้ปีศาจแดงดำ และสามารถสร้างชื่อยิงถล่มทลายจากการกดไป 61 ประตูจากการลงสนาม 143นัดรวมทุกรายการ แต่เมื่อมาใส่เบอร์ 9 เขาก็โดนอาการเจ็บรบกวนจนยิงได้แค่ 2 ประตูเท่านั้น แม้ว่าอันที่จริงอาการบาดเจ็บจะตามรบกวนตั้งแต่ฤดูกาลก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม
หรือจะเป็น คริสตอฟ เปียเท็ก ที่ย้ายมาในช่วงตลาดหน้าหนาวซีซั่น 2018/19 ในคราวแรกลงสนามโดยสวมหมายเลข 19 เขาเปิดตัวด้วยการยิงไป 11 ประตู จาก 21 นัดรวมทุกรายการ แต่เมื่อฤดูกาลถัดมาเจ้าตัวเลือกเปลี่ยนมาใส่เบอร์ 9 ก็ทำได้แค่ 5 ประตูจาก 20 นัดรวมทุกรายการ ก่อนที่ทีมจะไปดึง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เข้ามาสู่ทีมในตลาดหน้าหนาวก็ทำให้โอกาสของเขาเป็นอันดับไปจนต้องย้ายออก
กุญแจสำคัญทำลายคำสาป
แม้ว่าจะมีหมายเลข 9 หลายรายที่ล้มเหลว แต่ก็มีคนนึงที่เกือบทำลายคำสาปนี้ได้ก่อน ชิรูด์ นั่นคือ อังเดร ซิลวา ที่ยิงไปได้ 10 ประตู พอดีเป๊ะในฤดูกาล 2017/18 แต่สุดท้ายก็โดนปล่อยออกจากทีมไปหลังจบซีซั่นเนื่องจากไม่เข้าระบบในช่วงหลังของทีมที่มีการเปลี่ยนตำแหน่งกุนซือจาก วินเซนโซ่ มอนเตลล่า มาเป็น เจนนาโร่ กัตตูโซ่
จะเห็นได้ว่าอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้กองหน้าล้มเหลว นั่นคือระบบ และสภาพโดยรวมของทีม ที่ในช่วงที่ผ่านมาก่อนยุคของ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ พวกเขายึดใช้แผน 4-3-3 ซึ่งจะเน้นความสำคัญที่แนวรุกริมเส้นทั้งสองข้างให้ตัดเข้าในมายิงประตู ทำให้กองหน้าของพวกเขาในช่วงเวลานั้น ไม่ว่าจะใส่เบอร์อะไรก็เป็นอันต้องกลายเป็นแค่ไม้ประดับสนาม และแทบไม่ได้รับบอลสวยๆจากเพื่อนร่วมทีมเลย
โดยในทีมชุดปัจจุบันแม้จะยังมีการเน้นบุกทางริมเส้น แต่พวกเขาก็มีทางเลือกที่หลากหลายขึ้นจากการที่มีกองกลางที่สามารถเชื่อมเกมได้อย่างยอดเยี่ยมทั้ง ซานโดร โตนาลี่ ,อิสมาอิล เบนนาเซอร์ และเพลย์เมคเกอร์อย่าง บราฮิม ดิอาซ ทำให้กองหน้าตัวเก๋าทั้ง อิบราฮิโมวิช ที่ยิงไป 8 ประตู และ ชิรูด์ ที่กดไป 10 ประตู สามารถทำประตูได้ง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บวกกับประสบการณ์ของพวกเขาที่มีมากพอจะแก้ไขบอลที่รุ่นน้องส่งมาแบบผิดพลาดแล้วเปลี่ยนเป็นประตูได้ เลยเป็นที่มาของผลงานทั้งหมดนี้
มาดูกันที่สถิติของดาวยิงเลือดน้ำหอมกับ ปีศาจแดงดำในซีซั่นนี้ ก็ต้องบอกว่าสามารถสลับกับ ซลาตัน ลงสนามกันได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ด้วยค่าเฉลี่ยการยิงหวังผลอยู่ที่ 1.6 ครั้งต่อเกม แบ่งเป็นการยิงตรงกรอบถึง 17 ครั้ง หลุดกรอบแค่ 8 ครั้งเท่านั้น ส่วนการผ่านบอล แม้จะเพิ่งทำไปได้ 2 แอสซิสต์ แต่ก็มีเปอร์เซ็นการผ่านบอลสำเร็จอยู่ที่ 70 % นับว่าสูงไม่น้อยสำหรับตำแหน่งกองหน้า
ในที่สุดแล้วคำสาปเบอร์ 9 ของปีศาจแดงดำที่ได้ถูกหัวหอกโกคาร์ทจากแดนน้ำหอมทำลายลงได้ ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับ ฝีเท้า , ทัศนคติ และความเก๋าของเขา ที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานจนสามารถยิงเกิน 10 ประตู และยังมีลุ้นที่จะบวกประตูเพิ่มกับครึ่งหลังของซีซั่นที่เหลือ รวมถึงระบบทีมที่เล่นกันได้อย่างหลากหลายขึ้นจนกองหน้าตัวเป้าไม่ใช่เป็นเพียงแค่ไม้ประดับในสนามอีกต่อไป