นอกเหนือจากฟอร์มการเล่นตกลงจนโดน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นแซงเป็นจ่าฝูงและทำแต้มทิ้งห่างไปไกลถึง 13 คะแนน สิ่งหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อ เชลซี ชัดเจนก็คือปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บในแนวรับ
แม้จะได้หลายคนกลับมาบ้างแล้ว แต่ในตำแหน่งแบ็คซ้ายยังน่าเป็นห่วง เนื่องจาก เบน ชิลเวลล์ บาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าฉีกจนต้องพักยาวไปตลอดทั้งซีซั่น ทำให้ตอนนี้เหลือแค่ มาร์กอส อลอนโซ่ เท่านั้นที่เป็นผู้เล่นในตำแหน่งนั้นโดยธรรมชาติให้ใช้งาน
นั่นทำให้ทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล ตกเป็นข่าวกับผู้เล่นตำแหน่งแบ็คซ้ายมากมายตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ อีกทั้งยังมีข่าวเตรียมเรียกทั้ง เอแมร์ซอน พัลมิเอรี่ ที่ปล่อยให้ ลียง ยืมตัวกลับมาด้วย
ทว่าก็มีข่าวว่าสโมสรจากแดนน้ำหอม ปฏิเสธข้อเสนอดึงตัวกลับจาก ‘สิงห์บลูส์’ เช่นกัน นั่นทำให้พวกเขาจำเป็นต้องหาแบ็คซ้ายเข้ามาเสริมในช่วงเวลาที่เหลือราวๆครึ่งเดือนในตลาดนักเตะหน้าหนาว
ว่าแต่ใครกันเหมาะสมที่ เชลซี จะดึงตัวมาเสริมทัพในตำแหน่งนี้ UFA ARENA จึงขอพาไปพบกับ 5 เป้าหมายแบ็คซ้ายที่ทีมจากลอนดอนควรคว้ามาก่อนปิดตลาดเดือนมกราคม
นิโคลาส ทาเกลียฟิโก้ | อาแจ็กซ์
อลอนโซ่ อาจเติมเกมรุกได้ดุดันกว่า ชิลเวลล์ แต่ในด้านการเปิดบอลหรือสร้างสรรค์โอกาส อดีคแบ็คเลสเตอร์ ซิตี้ ทำได้ดีกว่าแน่นอน และถ้า เชลซี อยากใครสักคนที่มีสไตล์คล้ายคลึงกับแบ็คชาวอังกฤษ ก็ต้อง นิโคลาส ทาเกลียฟิโก้
แบ็คตัวเก่งจาก อาแจ็กซ์ ก็เคยตกเป็นเป้าหมายของ ‘สิงห์บลูส์’ ในช่วง 2-3ปีที่ผ่านมา ซึ่งเขามีจุดเด่นในด้านเกมรุก และการสร้างสรรค์เกมจากด้านข้าง ขณะเดียวกันสถิติเกมรับก็ดูดีไม่แพ้กัน ทั้งค่าเฉลี่ยการเข้าปะทะ 2.3 ครั้งต่อ 90 นาทีในเอเรดิวิซี่ ฤดูกาลนี้ และการแย่งบอลกลับมาครองในแดนกลางถึง 4.26 ครั้ง
และการที่ ทาเกลียฟิโก้ ได้รับโอกาสน้อยลงในฤดูกาลนี้ ทำให้ เชลซี มีโอกาสสูงที่จะคว้าแบ็คทีมชาติอาร์เจนติน่าไปร่วมทีมในตลาดหน้าหนาวนี้
เซอร์จิโญ่ เดสต์ | บาร์เซโลน่า
เซอร์จิโญ่ เดสต์ ก็เป็นอีกคนที่มีข่าวกับ เชลซี ในช่วงที่ผ่านมา แม้ตำแหน่งหลักของเขาจะเป็นแบ็คขวา แต่การที่ รีซ เจมส์ แบ็คขวาตัวหลักยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บ นั่นอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล สนใจในตัวเขามากกว่าเดิม
แบ็คทีมชาติสหรัฐอเมริกา ได้รับโอกาสลงเล่นสม่ำเสมอในยุคที่ โรนัลด์ คูมัน ยังกุมบังเหียน บาร์เซโลน่า ซึ่งก็ทำผลงานได้ดีในแบ็คขวา รวมถึงถูกโยกไปเล่นแบ็คซ้ายเป็นบางครั้งด้วย ทว่าในยุคของ ชาบี เอร์นานเดซ เขาก็หลุดตัวจริงในทีม พร้อมมีปัญหาบาดเจ็บรบกวนอยู่เป็นครั้งคราว
แต่อย่างนั้น เดสต์ ก็โดดเด่นไม่น้อยในฐานะแบ็คที่คอยสร้างสรรค์เกมจากด้านข้าง กับการแอสซิสต์ 3 ครั้งในลาลีก้า ฤดูกาลนี้ พร้อมสถิติการสร้างโอกาส 1.57 ครั้งต่อ 90 นาที ซึ่งจุดนี้เองจะช่วยให้ เชลซี จู่โจมคู่แข่งได้ทั้ง 2 ข้าง และที่สำคัญยังช่วยทดแทนในช่วงที่ เจมส์ หายหน้าไปจากทีมด้วย
ฟิลลิป คอสติช | ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต
วิธีหนึ่งที่จะมั่นใจได้ว่า เชลซี จะไม่สูญเสียผลงานเกมรุกที่ ชิลเวลล์ สร้างไว้ในทีมคือการเซ็นสัญญาวิงแบ็คที่สามารถเล่นเป็นปีกได้ ซึ่งมีคนไม่มากที่มองว่า ฟิลลิป คอสติช เป็นผู้เล่นแนวรับ เนื่องจากถูกจับไปยืนเป็นตัวรุกมากกว่า แต่นั่นคือสิ่งที่ทำให้เขาดูสมบูรณ์แบบสำหรับ ‘สิงห์บลูส์’
ดาวเตะทีมชาติเซอร์เบีย มีส่วนร่วมกับประตูที่เกิดขึ้นสำหรับ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต ในบุนเดสลีก้าฤดูกาลนี้ ถึง 10 ประตู โดยแบ่งเป็นยิงเอง 3 ลูก (เฉลี่ย 0.19 ทุก 90 นาที) และ 7 แอสซิสต์ (0.43 ต่อ 90 นาที) ซึ่งตัวเลขเหล่านี้อาจทำให้ คอสติช โดดเด่นกว่าแบ็คซ้ายทีมชาติอังกฤษด้วยซ้ำ
นอกจากนี้การทำประตู แข้ง ‘อินทรีแดงดำ’ ก็ทำได้น่าพอใจเช่นกัน ที่สามารถขึ้นไปหาโอกาสยิงได้ 2.05 ครั้งต่อเกมในลีกเมืองเบียร์ แม้แม่นยำแค่ 39.39% ก็ตาม ขณะที่เกมรับก็ดูเข้าตาไม่น้อย ทั้งการเข้าปะทะ 1.49 ครั้งต่อเกม (ชิลเวลล์ 1.33) รวมไปถึงการแย่งบอลกลับมาในพื้นที่สุดท้ายที่ 1.3 ครั้ง
เฟเดริโก้ ดิมาร์โก้ | อินเตอร์ มิลาน
ถึงไม่ได้โดดเด่นเท่ากับแบ็คที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ แต่ เฟเดริโก้ ดิมาร์โก้ จาก อินเตอร์ มิลาน ก็เป็นผู้เล่นที่ เชลซี ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน
แข้งวัย 24 ปี ถือเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ในทีมของ ซิโมเน่ อินซากี้ ฤดูกาลนี้ เนื่องจากถูกโยกไปเล่นทั้ง วิงแบ็ค, ฟูลแบ็คซ้าย หรือแม้กระทั่งเซ็นเตอร์แบ็ค ซึ่งก็ทำหน้าที่ได้แบบไม่มีขาดตกบกพร่อง
แบ็คชาวอิตาเลี่ยน มีค่าเฉลี่ยยิงประตู 0.24 ลูกต่อเกม และแอสซิสต์ 0.12 ต่อเกมใน เซเรียอา ซึ่งอาจดูน้อย แต่การหาโอกาสยิง 2.69 ครั้งต่อ 90 นาที ก็ยังเหนือกว่า ชิลเวลล์ (2.17) นั่นทำให้ ดิมาร์โก้ ดูเหมาะสมกับระบบของ ทูเคิ่ล ใน ‘สิงห์บลูส์’ ไม่แพ้ใคร
ซิโมเน่ บาสโตนี่ | สเปเซีย
ยังอยู่กันที่ เซเรียอา กับ ซิโมเน่ บาสโตนี่ แบ็คซ้ายจาก สเปเซีย ที่ดูครบเครื่องและเหมาะสมกับ เชลซี ทั้งในแง่เกมรุกและเกมรับ
แนวรับวัย 25 ปี มีส่วนร่วมกับประตูไม่น้อย ด้วยการยิงไป 3 ประตูกับ 3 แอสซิสต์จาก 20 นัดในเซเรียอา และในแง่ของการสร้างสรรค์เกมก็โดดเด่นมากที่ 1.93 ครั้งต่อเกม
นอกจากนี้ บาสโตนี่ ยังชื่นชอบในการลากเลื้อยดวลเดี่ยวกับคู่แข่งด้วย ซึ่งมีสถิติ 2.57 ครั้งต่อเกม ซึ่งนี่เป็นจุดที่เขาทำได้ดีกว่า ชิลเวลล์ ขณะที่เกมรับก็ไว้ใจได้ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นเข้าปะทะ 1.64 ครั้งต่อเกม, การแย่งบอลในแดนรับฝั่งตัวเอง 3.75 ครั้ง และ แดนกลาง 2.52 ครั้งต่อเกม
บทความที่เกี่ยวข้อง
