ตัวแทนร็อบโบ้ : สืบประวัติ คอสตาส ซิมิกาส แบ็คซ้ายป้ายแดงลิเวอร์พูล

 

หลังตกเป็นข่าวได้ไม่กี่วัน ลิเวอร์พูล ก็เซ็นสัญญาคว้า คอสตาส ซิมิกาส จาก โอลิมเปียกอส ด้วยค่าตัวราวๆ 11.75 ล้านปอนด์ แต่ว่าหลายคนยังสงสัยว่า แนวรับชาวกรีซนี้คือใคร?

 

หงส์แดง ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า แข้งวัย 24 ปี ได้เดินทางมาร่วมทีม เซ็นสัญญาระยะยาวเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา พร้อมรับเสื้อเบอร์ 21 และกลายเป็นนักเตะคนแรกที่ทีมเสริมทัพในซัมเมอร์นี้

 

แม้จะย้ายมาร่วมทีมอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ เดอะ ค็อป หลายคน ยังรู้จักชื่อของแข้งแดนเทพนิยาย น้อยกว่านักเตะบางคนที่สโมสรเป็นข่าวในช่วงที่ผ่านๆมาเสียอีก

 

ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงขอพาสาวกหงส์แดง รวมถึงแฟนบอลทีมอื่นไปรู้จักกับ ซิมิกาส ให้มากขึ้น และเขาจะสร้างความแตกต่างอะไรได้บ้างใน แอนฟิลด์

 

 

ใครคือ คอสตาส ซิมิกาส?

 

 

ซิมิกาส เกิดใน เธสซาโลนิกี้ เมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ในกรีซ เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับทีมท้องถิ่นของหมู่บ้าน จากนั้นจึงย้ายไปที่ เอเอส เนโปลี เธสซาโลนิกี้ เมื่อเขาอายุ 14 ปี ต่อมาในปี 2013 ก็ย้ายมาร่วมทีมระดับเยาวชนของ แพนเซอร์ไรกอส เอฟซี ก่อนที่จะย้ายมาฝีกวิชาลูกหนังอีกขั้นกับ โอลิมเปียกอส ในปี 2014

 

แม้จะพัฒนาฝีเท้าจนก้าวขึ้นมาสู่ทีมสุดใหญ่ ในปี 2015 แต่ด้วยวัยและฝีเท้าในเวลานั้นยังไม่แข็งแกร่งมากนักเมื่อเทียบกับแข้งคนอื่นๆ จึงถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปก่อน

 

ณ เวลานั้น ซิมิคาส ย้ายไปเล่นแบบยืมตัวให้กับ เอสเบิร์ก สโมสรในเดนมาร์ก ปี 2017 ก่อนที่จะโบกบินไปสั่งสมประสบการณ์เพิ่มเติมกับ วิลเลม ทเว ในเอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ ซึ่งเป็นที่ที่เขาเริ่มฉายแววเด่นครั้งแรก โดยได้ลงสนามในเกมลีก 33 นัดยิงได้ 3 ประตู ในฤดูกาล 2017-18

 

จากนั้น แบ็คชาวกรีก ก็ย้ายกลับต้นสังกัดที่แท้จริงเพื่อกลับมาแย่งตำแหน่งกับ เลโอนาร์โด้ คูตริส ในตำแหน่งแบ็คซ้ายตัวจริง และในที่สุดเขาก็กลายเป็นตัวหลักที่ เปโดร มาร์ตินส์ กุนซือของทีมไว้วางใจ โดยในฤดูกาล 2018-19 เขาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจด้วยจาการลงสนาม 28 นัดในทุกรายการ

 

แต่ฤดูกาล 2019-20 คือปีที่ ซิมิเกส โดดเด่นทีสุดในอาชีพค้าแข้ง หลังพา โอลิมเปียกอส คว้าแชมป์ กรีซ ซุปเปอร์ ลีก แบบไร้พ่าย แถมยังพาสโมสร เอาชนะ อาร์เซน่อล 2-1 ในศึกยูโรป้า ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย น่าเสียดายที่ดันพ่าย วูล์ฟแฮมป์ตัน ในรอบ 16 ทีมด้วยสกอร์ 2-1 เสียก่อน 

 

และนั่นกลายเป็นเกมสุดท้ายของเขากับ โอลิมเปียกอส ก่อนที่ ซิมิกาส จะย้ายมาผจญภัย กับลีกสูงสุดแดนผู้ดีในเวลาต่อมา

 

 

จุดเด่นและจุดด้อย

 

 

ซิมิกาส ถือเป็นแบ็คจอมบุกอีกคนของวงการลูกหนังยุคใหม่ และมีสไตล์คล้ายคลึงกับ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ผู้เล่นที่เขาต้องคอยเป็นกำลังเสริมในลิเวอร์พูลไม่น้อยเลย

 

เขามีการเข้าปะทะที่แข็งแกร่ง ด้วยสถิติการปะทะชนะถึง 72.3 เปอร์เซนต์ ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก และ ยูโรป้า ลีก ฤดูกาลก่อน อีกทั้งยังเข้าสกัดได้รวดเร็ว และตัดบอลจากการจ่ายบอลของคู่แข่งได้ดีเช่นกัน

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือ พลังอันอ้นเหลือในการเติมเกมและลงมาเล่นเกมรับตลอด 90 นาที พร้อมด้วยความเร็วในการเคลื่อนที่ ซึ่งมีรูปแบบเช่นเดียวกับ โรเบิร์ตสัน

 

จากสถิติที่ ดิ แอธเลติก บันทึกไว้โดยใช้ สมาร์ทเตอร์สเกาต์ ดาต้า แสดงให้เห็นว่า แบ็คซ้ายชาวกรีก โดดเด่นอย่างมากในทำเติมเกมบุกในพื้นที่สุดท้าย

 

คะแนนของ ซิมิกาส ในด้านการเลื้ยงบอล (97, โรเบิร์ตสัน 61 ), การเก็บบอลและแย่งบอล (83 ต่อ 90) และ การพาบอลขึ้นหน้า (88 ต่อ 93) แสดงให้เห็นว่า เขาเหมาะสมที่จะเป็นอะไหล่เสริมในตำแหน่งแบ็คซ้ายมากแค่ไหน ขณะที่คะแนนการเข้าปะทะของเขา (88 ต่อ 34) ก็โดดเด่นกว่า แบ็คชาวสก็อตมากพอสมควร

 

แม้จะมีคะแนนด้านเกมรับที่ดี แต่จุดอ่อนหลักๆที่ ดิ แอธเลติก ระบุไว้ชัดเจน และ ซิมิกาส ต้องได้รับการปรับปรุงก็คือ  การครอบครองบอล ซึ่งเขามีคะแนนด้านนี้น้อยกว่า ร็อบโบ้ กว่าเกือบเท่าตัวเลย (35 ต่อ 67)

 

เนื่องจากทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ นั่นอาศัยการขึ้นเกมจากตำแหน่งฟูลแบ็คอย่างมาก โดยทั้ง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ และ โรเบิร์ตสัน ต่างมีเปอร์เซ็นต์ครองบอลที่สูงในทุกๆเกมที่ลงสนาม และจุดนี้อาจทำให้ ซิมิกาส อาจมีปัญหาได้

 

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจุดอ่อนนี้อน่าจะได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นเมื่อเขาได้โอกาสฝึกซ้อมร่วมกับเพื่อนๆใน เมลวู้ด ต่อจากนี้

 

 

ทำไมคล็อปป์ถึงเลือก ซิมิกาส?

 

 

เหตุผลนี้หลายคนคงทราบกันดีอยู่ว่าแล้วว่า กุนซือหงส์แดง ดึง ซิมิกาส มาร่วมทีม เพราะต้องการแข้งที่เข้ามาเป็นกำลังเสริมให้กับ โรเบิร์ตสัน ในตำแหน่งแบ็คซ้าย และมีส่วนร่วมในการแย่งตำแหน่งแบ็คซ้ายตัวจริงจากแข้งทีมชาติสก็อตแลนด์ด้วย 

 

มากกว่าไปนั้น เขายังเป็นนักเตะที่ คล็อปป์ ให้ความสนใจและจับตาดูฝีเท้าอยู่นานสองนาน ซึ่งได้เปิดเผยเรื่องนี้ผ่านทางเว็บไซต์สโมสรด้วย

 

“เราเฝ้าจับตามอง คอสตาส มานานแล้ว และเรามีความสุขมากๆ ที่เขาย้ายมาอยู่กับเรา มันเป็นข่าวที่ยอดเยี่ยมนะ ก่อนที่เราจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในเร็วนี้” นายใหญ่หงส์แดงกล่าวถึงลูกทีมคนใหม่

 

ก่อนหน้านี้ แบ็คทีมชาติกรีซ ตกเป็น 1 ใน 4 แข้งที่หงส์แดงต้องการเสริมทัพในตำแหน่งแบ็คซ้าย ร่วมกับ ลูอิส จามาล ของ นอริช, เซร์คิโอ เรกีลอน ของ เรอัล มาดริด และ ลอยด์ เคลลี่ จากบอร์นมัธ

 

เดิมทีทีมเลือก จามาล เป็นอันดับแรก แต่เมื่อโดน นกขมิ้นเหลืองอ่อน โก่งค่าตัวสูงถึง 20 ล้านปอนด์ ในขณะที่พวกเขาสามารถจ่ายได้แค่ 10 ล้านปอนด์ ทำให้ดีลนี้ก็ต้องล่มไป ก่อนจะเบนเข็มไปล่าตัว ซิมิกาส แทน

 

ด้วยวัยเพียง 24 ปี แต่กลับมีประสบการณ์ค้าแข้งเกมระดับอาชีพมากกว่า 136 นัดในสโมสร พร้อมกับคว้าแชมป์ลีก, เคยโชว์ฝีเท้าในแชมเปี้ยนส์ลีก, ติดทีมชาติกรีซชุดใหญ่ 3 นัด  และสามารถปรับตัวในวัฒนธรรมฟุตบอลต่างแดนยามเล่นแบบยืมตัวกับ เอสเบิร์ก และ วิลเล่ม ทเว ได้อย่างไม่มีปัญหา ยิ่งทำให้ แข้งแดนเทพนิยายกลายเป็นการเสริมทัพที่น่าสนใจมากกว่าเดิม

 

อีกทั้ง การแอสซิสต์ 7 หน ในฤดูกาลที่ผ่านมา ของเขาน่าจะทำให้ กุนซือชาวเยอรมัน เชื่อว่า ซิมิกาส สามารถเข้ามาเติมเต็มในตำแหน่งแบ็กซ้ายได้เช่นกัน

 

 

ดีพอแย่งตัวจริงจากร็อบโบ้หรือไม่

 

 

อย่างไรก็ตาม คงไม่มี เดอะ ค็อป คนไหนคาดหวังว่า ซิมิกาส จะระเบิดฟอร์มเก่งจนเบียดแย่งตำแหน่งแบ็คซ้ายตัวจริงจาก โรเบิร์ตสัน ได้ตั้งแต่ปีแรกในแอนฟิลด์ 

 

แต่ด้วยการแข่งรายการต่างๆที่ ลิเวอร์พูล ต้องทำศึกชิงชัยทั้งใน พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, เอฟเอ คัพ และ ลีกคัพ ทำให้การมาของ ซิมิกาส จะช่วยแบ่งเบาภาระของ โรเบิร์ตสัน ได้เป็นอย่างดี เมื่อไหร่ที่มีแมตช์การแข่งขันที่ถี่ยิบแน่นปฏิทินจนจำเป็นต้องมีการหมุนเวี่ยนโลเตชั่นในทีม 

 

อีกทั้ง หากทีมเกิดเหตุฉุกเฉินที่ไม่มีใครคาดคิดในตำแหน่งนี้ อย่างเช่น ร็อบโบ้ ติดโทษแบน หรือ เจ็บหนักพักยาว ก็สามารถส่งดาวเตะเลือดกรีซ ลงสนามได้ทันที 

 

และนี่ก็ถือเป็นเรื่องดีที่ แฟนๆจะได้เห็นการแข่งขันแย่งตัวจริงในตำแหน่งแบ็คซ้ายที่น่าจะเข้มข้นกว่าที่เคย เมื่อเทียบกับช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา