“สิงห์บูลส์” เชลซี สโมสรดังแห่งมหานครลอนดอน ถือว่าเป็นหนึ่งในทีมที่กระตือรือร้นในการเสริมทัพช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะหน้าหนาว จากผลงานของพวกเขาในฤดูกาลนี้ที่มีปัญหามาตั้งแต่ช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล
แถมยังมีเรื่องอลวนกับการปลด โธมัส ทูเคิ่ล คนที่ดูจะมีฝีมือกลับไม่ได้อยู่ทำงานต่อเพราะขัดแย้งกับกลุ่มเจ้าของใหม่ที่นำโดย “เสี่ยท็อดด์” ท็อดด์ โบห์ลี่ ไปดึง แกรห์ม พ็อตเตอร์ กุนซือฟอร์มแรงมาจาก ไบร์ทตัน หวังจะเข้ามาวางรากฐานใหม่ ล้างไพ่จากยุคของ “เสี่ยหมี”
ซึ่งในช่วงเปิดตลาดหน้าหนาวพวกเขาได้ทำการเสริมทัพก่อนใครด้วยการไปดึงตัวละครลับอย่าง จากโมลด์เข้ามาร่วมทีม หลายคนต่างก็ตั้งข้อสงสัยว่าไอ้หมอนี่คือใคร ?
วันนี้ UfaArena จะพาไปทำความรู้กับ ดาวิด ดาโตร โฟฟาน่า หัวหอกดาวรุ่งตัวใหม่ของ เชลซี ที่หวังจะเดินตามรอยรุ่นพี่ที่เคยมาสร้างตำนานเอาไว้ในถิ่นเดอะ บริดจ์ อย่าง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา
๐ เขาคือใคร ?
เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยว่าดาวยิงรายนี้เป็นใคร สำหรับ ดาวิด โฟฟาน่า เพิ่งฉลองวันเกิดครบรอบอายุ 20 ปี ไปเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2022 ที่ผ่านมา ก่อนการย้ายมาอยู่กับ เชลซี เขาเกิดที่ โอรากาฮิโอ้ เมืองเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของประเทศไอวอรี่ โคสต์ ที่มีประชากรอยู่อาศัยอยู่เพียงแค่ราย ๆ 4 หมื่นรายเท่านั้น
แต่มีนักฟุตบอลหลายรายที่เกิดในเมืองนี้ อาทิ วีลฟรีด โบนี่ หัวหอกบ้องข้าวหลามที่เคยไปโลดแล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษกับ สวอนซี ซิตี้ และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ รวมไปถึง แซร์ก ออริเย่ร์ ที่ปัจจุบันอยู่กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และฟร้องค์ เกสซิเย่ร์ แดนกลางจากบาร์เซโลน่า
ดาวิด โฟฟาน่า ก็เป็นหนึ่งในนั้นเขาก็เหมือนกับคนทั่วไปในแอฟริกาที่แสวงหาความก้าวหน้า มุ่งเข้าสู่เมืองใหญ่ที่สุดของไอวอรี่ โคสต์ อย่าง อาบีจาน ซิตี้ ด้วยเป้าหมายอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่เขาไม่ได้เติบโตตามระบบอคาเดมี่เหมือนกันนักเตะอาชีพทั่วไป เรียกง่าย ๆ ว่าเล่นฟุตบอลข้างถนน หรือบอลเดินสาย จนได้รับความสนใจจากสโมสรลีกอาชีพ ต่อด้วยแมวมองของทีมในยุโรป ทั้ง นอร์เวย์ และเบลเยี่ยม
สุดท้ายเจ้าตัวเลือกย้ายมาอยู่กับ โมลด์ สโมสรดังในประเทศนอร์เวย์ เมื่อช่วงตลาดหน้าหนาวของปี 2021 แบบไม่มีค่าตัวเซ็นสัญญากับทีมเป็นเวลา 4 ปี แถมยังไปอยู่ในอพาร์ทเมนต์เดียวกับ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ อดีตหัวหอกของ โมลด์ ที่กำลังโลดแล่นเป็น ปีศาจร้าย ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ย้ายเข้ามาทีมใหม่เพียงแค่ 3 สัปดาห์ ก็เปิดตัวอย่างสวยงามด้วยการยิงประตูแรกในการพบกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ในศึกยูโรป้า ลีก
“เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ เป็นเหมือนกับสัญลักษณ์กับสโมสรแห่งนี้ ผมพูดกับตัวเองเสมอว่าเราเริ่มต้นจากสถานที่เดียวกัน และในวันข้างหน้าผมจะเป็นแบบเขาให้ได้”
หลังจากนั้นก็กลายเป็นตัวหลักของทีม โดยเฉพาะถ้านับจากปี 2022 เขายิงไปถึง 22 ประตู จากการลงเล่น 39 นัดในทุกรายการ ถ้านับเฉพาะบอลลีกฤดูกาลนี้ 24 เกม ยิงได้ 15 ประตู พร้อมคว้าแชมป์ลีกของนอร์เวย์ รวมไปถึงฟุตบอลถ้วย ด้วยผลงานแบบนี้ทำให้เขาถูกเรียกติดทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ ชุดใหญ่ และกลายเป็นเป้าหมายของหลายทีมดังในยุโรป
กลายเป็น เขลซี ที่เดินเกมอย่างรวดเร็วบรรลุข้อตกลงในการคว้าตัวเข้ามาเสริมทีมด้วยค่าตัว 12 ล้านยูโร พร้อมเซ็นสัญญายาว 6 ปีครึ่ง หรือถึงปี 2029
๐ ตำแหน่งและสไตล์การเล่น
สำหรับตำแหน่งการเล่นของ ดาวิด โฟฟาน่า เขาคือศูนย์หน้าตัวเป้าที่ไม่เพียงแต่รอจบสกอร์เท่านั้น ยังสามารถขยับเคลื่อนที่รับบอลร่วมเล่นกับเพื่อนได้อย่างเป็นธรรมชาติ แถมยังมีความเร็วและความแข็งแกร่ง ตามแบบฉบับของนักเตะจากแอฟริกัน
โดยสามารถยิงได้ทั้งสองเท้า แต่ข้างถนัดคือเท้าขวา นอกจากนี้เขายังสามารถถอยหรือฉีกออกไปเล่นเป็นตัวริมเส้นทั้งสองฝั่งได้อีกด้วย เรียกได้ว่าค่อนข้างครบเครื่องในตำแหน่งเกมรุกเลยทีเดียว
“ผมเติบโตมาจากฟุตบอลตามท้องถนน ผมไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ ไม่ได้รับการศึกษาศาสตร์ฟุตบอล ผมไม่ได้เป็นผู้เล่นของศูนย์ฝึกฟุตบอล ทุกอย่างนั้นมาจากท้องถนนและที่นั่นจะเน้นอย่างมากในเรื่องของการความเร็วและการจบสกอร์ที่แม่นยำ เพราะเป้าหมายหนึ่งเดียวคือการยิงประตู”
๐ ย้ายสู่ทีมรักตามรอยไอดอลดร็อกบา
แน่นอนว่านักเตะที่มีอิทธิพลต่อเด็ก ๆ จากไอวอรี่ โคสต์ ที่เกิดในยุคหลัง 2000 คงหนีไม่พ้น ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา หัวหอกผู้เป็นตำนานของทีมชาติและเชลซี โฟฟาน่า เองก็เป็นหนึ่งในนั้นตัวเขายอมรับว่าหัวหอกรายนี้คือไอดอลของเขา และทำให้ตามเชียร์เชลซีมาตลอด
“เชลซี คือสโมสรในดวงใจของผมตั้งแต่เด็ก ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา เล่นที่นั่น ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นสโมสรที่ผมตามเชียร์อยู่เสมอ และเป็นฝันของผมที่จะได้เล่นให้กับสโมสรแห่งนี้” โฟฟาน่า เผยว่าช่อง TV ในนอร์เวย์ ว่า ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา นั้นมีอิทธิพลต่อการเล่นฟุตบอลของเขา
นอกจากมี ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา เป็นต้นแบบแล้ว เขายังชอบที่จะเรียนรู้สไตล์การเล่นของยอดกองหน้าระดับโลกคนอื่น ๆ อาทิ โรนัลโด้, โรนัลดินโญ่, คริสติอาโน่ โรนัลโด้, ลีโอเนล เมสซี่ และซลาตัน อิบราฮิโมวิช
“นักเตะระดับโลกหลายคนมีอิทธิพลกับผมเช่นกัน ผมชอบการเลี้ยงบอลสไตล์บราซิลของ โรนัลดินโญ่ และโรนัลโด้ ส่วนเป็นเรื่องการยิงประตูต้อง คริสติอาโน่ โรนัลโด้ เขาครอบเครื่องสามารถยิงได้หมดทั้งนอกกรอบหรือในกรอบ และยังเล่นลูกกลางอากาศได้ยอดเยี่ยมด้วย”
“ถ้าพูดถึงการเคลื่อนที่ผมชอบ ลีโอเนล เมสซี่ เขาคือสุดท้ายของผู้เล่นอัจฉริยะที่เปลี่ยนตำแหน่งทิศทางวิ่งให้ได้เปรียบเสมอ ส่วน ซลาตัน อิบราฮิโมวิช คือสุดยอดผู้เล่นที่ใช้ร่างกายให้เป็นประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะการบังบอลของเขา”
๐ ใครบ้างที่เติบโตจากโมลด์ไปโลดแล่นในพรีเมียร์ลีก
แน่นอนว่า โมลด์ คือทีมใหญ่ในนอร์เวย์ พวกเขาผลิตนักเตะมากมายเข้าสู่ลีกใหญ่ของยุโรป แต่ที่น่าแปลกใจคือเป็นสโมสรที่ไม่ได้รวยจากการขายนักเตะมากนัก ไม่เหมือนกับสโมสรอื่น ๆ อาทิ เบนฟิก้า ที่ทำกำไรจากขายการนักเตะฝีเท้าดีมากมาย
ทำให้ค่าตัว 12 ล้านยูโรของ ดาวิด โฟฟาน่า คือสถิตินักเตะที่โมลด์ขายได้แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร ไปดูกันว่ามีนักเตะคนไหนที่เติบโตจากสโมสรแห่งนี้และเคยโลดแล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษบ้าง
โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์
หัวหอกเจ้าของฉายา “เพชรฆาตหน้าทารก” ย้ายจาก โมลด์ ในบ้านเกิดของเขาไปอยู่กับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์ของฤดูกาล 1996-97 ด้วยค่าตัว 2.5 ล้านยูโร อยู่กับทีมจนเป็นตำนาน ทำประตูชัยที่ทุกวันนี้หลายคนยังจดจำกันได้คือนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 1998-99 ใส่ ‘เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค พลิกสถานการณ์คว้าแชมป์ได้แบบไม่น่าเชื่อ นอกจากเป็นนักเตะแล้ว เขายังเป็นผู้จัดการทีมด้วย
มาเม่ บิรัม ดิยุฟ
อีกหนึ่งจากแอฟริกันที่ย้ายมาแจ้งเกิดกับโมลด์ ก่อนจะโยกไปอยู่กับ แมนฯยูไนเต็ด ในปี 2009 ด้วยค่าตัว 4.5 ล้านยูโร แม้ว่าเขาจะไม่ประสบความสำเร็จมากนักกับการค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่ก็สามารถยืนระยะเล่นในอังกฤษอยู่หลายปีกับ ทีมอย่าง แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และสโต๊ค ซิตี้ ปัจจุบันเขาอายุ 35 ปี ยังไม่แขวนสตั๊ด เล่นให้กับ คอนยาสปอร์ ในลีกสูงสุดของประเทศตุรเคีย
เออร์ลิ่ง เบร้าท์ ฮาลันด์
หากจะพูดถึงนักเตะที่เคยเล่นให้กับ โมลด์ และน่าจะประสบความสำเร็จมากที่สุด ชื่อของ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ คงจะผุดขึ้นมาก่อนใครอย่างไม่ต้องสงสัย หัวหอกจอมมารบู ไม่ได้เริ่มต้นเล่นฟุตบอลให้กับสโมสรแห่งนี้ แต่เล่นให้กับ ไบรน์ เอฟเค ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ โมลด์ ยิงกระจายจนทำให้ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ในออสเตรีย ควักเงิน 8 ล้านยูโร คว้าตัวไปร่วมทีม ปัจจุบันก็อย่างที่เห็น ฤดูกาลนี้เขาระเบิดฟอร์มสุดยอดกับ แมนฯซิตี้ ยิงในพรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 21 ประตู ทั้งที่ลงเล่นไปเพียงแค่ 16 เกมเท่านั้น
น่าสนใจจริง ๆ สำหรับ ดาวิด โฟฟาน่า เด็กหนุ่มรายนี้ที่เติบโตมาจากการเล่นฟุตบอลข้างถนน แต่ใช้เวลาไม่นานก็สามารถทำฝันให้เป็นจริง ด้วยการย้ายมาค้าแข้งในสแตมฟอร์ด บริจด์ กับทีมที่เชียร์มาตั้งแต่เด็กอย่าง เชลซี ตามรอยขวัญใจต้นแบบในการเล่นฟุตบอลของเขาอย่าง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา
ต้องรอดูกันไปต่อไปว่าผลงานของเขากับเชลซีจะเป็นอย่างไร ปัจจุบันเจ้าตัวได้รับโอกาสลงเล่นเกมแรกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในศึกคาราบาว คัพ ที่บุกพ่ายให้กับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-0 โดยมีเวลาอยู่ในสนาม 45 นาที