ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากลุ่มทุนอาบู ดาบี ซึ่งนำโดยชีค มานซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยานคือสิ่งที่ทำให้ แมนฯซิตี้ ก้าวขึ้นมาเป็นสโมสรชั้นนำในอังกฤษ รวมไปถึงทวีปยุโรปด้วย
พวกเขามีเงินมากมายในการคว้านักเตะระดับโลกมาร่วมทีม ไม่ว่าจะเป็น เซร์กิโอ้ อเกวโร่, ดาบิด ซิลบา, เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ หรือแม้แต่กุนซืออัจฉริยะอย่าง เป็ป กวาร์ดิโอล่า ด้วย
อย่างไรก็ตาม มีเงินอย่างเดียวก็ใช่ว่าจะทำให้พวกเขาดูดีเสมอไป เพราะขนาดทีมระดับซิตี้ยังเคยเซ็นสัญญาคว้านักเตะแปลกๆมาร่วมทีมอยู่หลายครั้ง โดยช่วง 15 ปีที่ผ่านมา และนี่คือ 8 ดีลผู้เล่นสุดประหลาดที่เกิดขึ้นในยุคของ ชีค มานซูร์
โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ (2011-12, ลงเล่น 4 นัด)
เช่นเดียวกับ เดนนิส ลอว์, บิลลี่ เมเรดิธ และ คาร์ลอส เตเวซ, ฮาร์กรีฟส์คือนักเตะที่เคยเล่นให้กับ 2 สโมสรจากเมืองแมนเชสเตอร์ แต่ว่ากองกลางชาวอังกฤษไม่เหมือนพวกเขาเหล่านั้นตรงที่ ฮาร์กรีฟส์ โชว์ฟอร์มเก่งได้กับทีมเดียวเท่านั้น
อดีตกองกลาง ‘ปีศาจแดง’ ย้ายไปอยู่ทีมตรงข้ามแบบเซอร์ไพรส์ในปี 2011 หลังจากที่อาการบาดเจ็บทำให้เขาลงสนามแค่ 5 นัดในช่วง 3 ปีหลังสุดกับยูไนเต็ด ซึ่งฤดูกาลนั้น ฮาร์กรีฟส์ได้ลงเล่นให้เรือใบสีฟ้าไป 4 นัด แถมยังทำประตูนัดเปิดสนามได้ด้วย แต่ทว่าในพรีเมียร์ลีกเขาลงไปสัมผัสพื้นหญ้าแค่ 13 นาทีเท่านั้น และเกมสุดท้ายในสี้เสื้อซิตี้คือนัดที่พ่ายให้กับยูไนเต็ดทีมเก่าของเขา 3-2
เดนิส ซัวเรซ (2011-13, ลงเล่น 2 นัด)
นอกจากจะเป็นแข้งที่ถูกลืมในทีมอาร์เซน่อลแล้ว, เดนิส ซัวเรซ ก็เคยเจอประสบการณ์แบบนี้ตอนค้าแข้งกับแมนฯซิตี้มาก่อน โดยเขาได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่แค่ 2 นัด และหนึ่งในเกมนั้นคือนัดที่เรือใบสีฟ้าพลาดท่าพ่ายให้วูล์ฟแฮมป์ตันไป 4-2 ในลีกคัพ
กองกลางชาวสเปนเคยถูกยกย่องว่าจะกลายเป็นดาบิด ซิลบา คนใหม่ ด้วยสไตล์การเล่นที่มีความสร้างสรรค์ แถมยังเป็นเพื่อนร่วมชาติสเปนด้วยกันอีก อย่างไรก็ตาม ซัวเรซไม่ได้โชว์ผลงานได้น่าประทับใจใน 2 ปีที่ค้าแข้งกับทีมสีฟ้าแห่งแมนเชสเตอร์เลย ก่อนจะย้ายไปกลับไปอยู่กับทีมยักษ์ในบ้านเกิดอย่างบาร์เซโลน่าในปี 2013
มาร์ตอน ฟูล็อป (2010, ลงเล่น 3 นัด)
ย้อนกลับไปในปี 2010 นายทวารวัยดึกชาวบัลแกเรียนเสียตำแหน่งมือหนึ่งในทีมซันเดอร์แลนด์ หลังทีมพ่ายให้กับเชลซี 7-2 แต่แมนฯซิตี้ ซึ่งเป็นทีมที่รวยที่สุดในโลก ณ ตอนนั้น ดันไม่มีผู้รักษาประตูอยู่ในทีมชุดใหญ่แม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็น เชย์ กิฟเว่น หรือ สจ๊วร์ท เทย์เลอร์ ต่างได้รับบาดเจ็บทั้งคู่, โจ ฮาร์ท ก็ไม่สามารถดึงตัวกลับมาจากเบอร์มิ่งแฮมด้วยสัญญายืมตัวได้ และที่สำคัญตลาดนักเตะก็ปิดฉากไปเรียบร้อยแล้ว
นั่นทำให้พวกเขาต้องไปยืมตัว มาร์ตัน ฟูล็อป มือกาวฟอร์มหลุดจากทีม ‘แมวดำ’ แบบฉุกเฉินในช่วงท้ายฤดูกาลนั้น โดยลงได้ลงเฝ้าเสาให้ทีม 3 นัดเกมสุดท้ายของปีนั้น ซึ่งพวกเขาคว้าอันดับ 5 ในลีกไปครองและถูกสเปอร์สแย่งตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกไปแบบน่าเจ็บใจ
มาร์กอส โลเปซ (2013-15, ลงเล่น 5 นัด)
ขอเตือนความจำให้แฟนบอลซักหน่อยว่าทีมอย่างแมนฯซิตี้ ก็เคยทำเงินจากการปั้นดาวรุ่งขายมาแล้วเช่นกัน โดยได้เงินถึง 9 ล้านปอนด์สำหรับค่าตัวของ โลเปซ ในปี 2015 ซึ่งเคยลงเล่นให้สโมสรแค่ 5 นัดเท่านั้น และครองสถิติเป็นแข้งอายุน้อยที่สุดของซิตี้ที่ทำประตูได้ในเกมที่พบกับวัตฟอร์ดด้วยอายุเพียง 17 ปี กับอีก 9 วัน
บางทีที่ค่าตัวของโลเปซเยอะขนาดนั้นอาจเป็น มานูเอล เปเยกรินี่ กุนซือของทีมในตอนนั้นเคยหล่นประโยคสุดคลาสิคในวงการลูกหนังว่า “เขาไม่ได้มีไว้ขาย” ออกมา และอีกครึ่งชั่วโมงก่อนตลาดปิดก็มีข่าวว่า ปีกชาวโปรตุเกสก็ย้ายไปโมนาโกซะอย่างนั้น
ริชาร์ด ไรท์ (2013-15, ลงเล่น 5 นัด)
สิ่งที่คุณจะเจอเป็นอันดับแรกเมื่อค้นหาชื่อของ ริชาร์ด ไรท์ คือข่าวที่เขาลาทีมเปรสตันหลังจากย้ายไปร่วมทีมได้อาทิตย์เดียว เนื่องจากคิดถึงบ้าน แข้งชาวอิปวิชจึงเลือกเซ็นสัญญากับแมนฯซิตี้แทนในปี 2012 ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับ ซัฟโฟล์ค บ้านเกิดของเขาแทน
มือกาวชาวอังกฤษกลายมาเป็นนายประตูมือสามของ ‘เรือใบสีฟ้า’ และได้รับค้าจ้างจากทีมโดยที่ไม่ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่แม้แต่นาทีเดียว ตลอดเวลา 4 ปีที่อยู่ในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม สบายยิ่งกว่า สจ๊วร์ท เทย์เลอร์ นายทวารรุ่นพี่ที่ได้เล่นให้ทีมแค่นัดเดียวใน 3 ปีที่อยู่แมนเชสเตอร์ด้วยซ้ำ
ฟลอริยอง เลอเฌิน (2015-16, ลงเล่น 0 นัด)
ฟลอริยอง เลอเฌิน คือนักเตะซิตี้ที่ไม่เคยให้เล่นให้ซิตี้ และแทบไม่เคยไปเมืองเแมนเชสเตอร์เลย นับว่านี่เป็นความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดอย่างที่เขาเคยอธิบายเอาไว้หลังจากย้ายไปร่วมทีมนิวคาสเซิลเมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2017
ปราการหลังชาวฝรั่งเศสค้าแข้งกับคิโรน่า ก่อนซิตี้จะคว้ามาร่วมทีมในปี 2015 และปล่อยให้ทีมจากสเปนยืมตัวไปใช่งาน แต่ว่าในปีต่อมาเขาก็ถูกเป็ป กวาร์ดิโอล่า ปล่อยให้สโมสรแดนกระทิงอีกทีมอย่าง เออิบาร์ แบบถาวร ก่อนจะย้ายกลับมาค้าแข้งในอังกฤษกับสาลิกาดงในปี 2017
บรูโน่ ซูคูลินี่ (2014-17, ลงเล่น 1 นัด)
กองกลางกลายเป็นที่พูดถึงของแฟนบอลทั่วโลก แต่ไม่ใช้เรื่องฝีเท้าในสนามหรอกนะ เมื่อ แดร์ สปีเกล สื่อดังของเยอรมัน แฉว่าแมนฯซิตี้ไม่ยอมเปิดเผยเรื่องบุคคลที่สามถือสิทธิ์ในตัวซูคูลินี่ ซึ่งผิดกฏของเอฟเอโดยตรง แต่ไม่ว่าใครจะเป็นเจ้าของเขา ทีม ‘เรือใบ’ ก็ได้ประโยชน์จากแข้งชาวอาร์เจนไตน์น้อยมาก สมัยที่ยังอยู่ในอังกฤษ
ซูคูลินี่ย้ายจากราซิ่ง คลับ มาค้าแข้งกับซิตี้ในปี 2014 และได้ลงเล่นนัดคอมมูนิตี้ ชิลด์ ทีแพ้ให้กับอาร์เซน่อล 3-0 แต่หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้เห็นเขาใส่เสื้อสีฟ้าตราเรือใบอีกเลย เพราะเขาถูกปล่อยให้ทีมอื่นๆยืมตัว ทั้งบาเลนเซีย, คอร์โดบา, มิดเดิ้ลสโบรห์, เออีเค เอเธนส์, ราโย่ บาเยกาโน่ และ เวโรน่า ก่อนจะย้ายไปเล่นให้สโมสรจากอิตาลีแบบถาวรในปี 2017
อันเดร และ ฟิลิปโป้ มันชินี่ (2010-12 และ 2010-13, ลงเล่น 0 นัด)
แม้นามสกุลจะโด่งดังแต่ว่าทักษะลูกหนังก็ไม่ได้ครึ่งหนึ่งของผู้เป็นพ่อ อันเดร และ ฟิลิปโป้ คือลูกชายสุดที่รักของ โรแบร์โต้ มันชินี่ อดีตแข้งชื่อดัง ทันทีที่กุนซือชาวอิตาเลี่ยนได้รับตำแหน่งผู้จัดการทีมของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เขาก็พาลูกชายทั้งสองมาอยู่กับทีมเยาวชนของ ‘เรือใบสีฟ้า’ ในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม ฟิลิปโป้ ลูกชายคนโตดันไปเลียนแบบ คาร์ลอส เตเบซ ที่ปฏิเสธลงสนามในฐานะตัวสำรองทำให้เขาไม่ได้ลงเล่นให้ทีมอีกเลย ขณะที่คนน้องอย่าง อันเดรได้ลงเล่นให้ทีม 1 นัด ก่อนจะย้ายไปเล่นให้กับ บูดาเปสต์ ฮอนเวด, ดีซี ยูไนเต็ด และ นิวยอร์ค คอสมอส ในเวลาต่อมา ด้วยผลงานที่เห็นอยู่ พวกเขาทั้งคู่คงไม่ติดทีมชาติอิตาลีแน่นอน แม้พ่อของเขาจะเป็นเฮ้ดโค้ชให้ทัพ ‘อัซซูรี่’ อยู่ ณ ตอนนี้ก็ตาม