ซาลาห์คิดให้ดี : 8 แข้งฟอร์มร่วงหนักหลังแยกทางคล็อปป์

เจอร์เก้น คล็อปป์ ถูกยกให้เป็นผู้จัดการทีมเบอร์ต้นๆในวงการฟุตบอลยุคปัจจุบัน และล่าสุดเพิ่งตกลงเซ็นสัญญาใหม่คุม ลิเวอร์พูล ไปยาวๆจนถึงปี 2026

แม้เป็นที่ชื่นชมชื่นชอบของแฟนๆ รวมไปถึงนักเตะที่ร่วมงาน แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา กุนซือชาวเยอรมัน ต้องจำใจขายดาวเตะคนสำคัญไปไม่น้อย ซึ่งก็มีบางรายที่ประสบความสำเร็จมากกว่าเดิม

ทว่าหลายรายที่เลือกย้ายหนี เทรนเนอร์เลือดด๊อยช์ กลับต้องเสียใจกับการตัดสินใจดังกล่าว เนื่องจากไม่สามารถโชว์เก่งหรือทำผลงานได้ดีเหมือนเมื่อก่อนอีกเลย 

นี่เป็นสิ่งที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ควรคิดให้ดีก่อนลาถิ่น แอนฟิลด์ เพราะต่อให้เขาทำผลงานได้ระดับสูงกับ หงส์แดง ก็ไม่ได้การันตีว่าเขาจะประสบความสำเร็จเมื่อย้ายไปสโมสรอื่นๆ

ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จะพาไปพบกับ 8 ดาวเตะที่ทำผลงานโดดเด่นภายใต้การดูแลของ คล็อปป์ ทั้งใน โบรุสเซีย ดอร์ทมนุด์ และ ลิเวอร์พูล ก่อนล้มเหลวกับสโมสรถัดไป หลังตัดสินใจย้ายหนีกุนซือวัย 54 ปี

 

มาริโอ เกิตเซ่

ซูเปอร์สตาร์หลายรายได้รับการประคบประหงมอย่างดีจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ ตั้งแต่อายุยังน้อย และ มาริโอ เกิตเซ่ คือเพชรเม็ดงามที่กุนซือชาวเยอรมันเจียระไนขึ้นมา โดยตลอด 4 ฤดูกาลแรกในสีเสื้อ ดอร์ทมุนด์ เขาซัดไปถึง 31 ประตู จาก 116 นัด ทั้งที่เล่นในตำแหน่งกองกลาง และพาต้นสังกัดความแชมป์มาครองได้ 3 รายการ ซึ่งสองในนั้นเป็นแชมป์บุนเดสลีก้า พร้อมผงาดซิวรางวัล โกลเด้น บอย มานอนกอดได้ในปี 2011

ในปี 2013 ก่อนที่พลพรรค ‘เสือเหลือง’ จะลงสนามดวลกับ เรอัล มาดริด ในรอบรองชนะเลิศศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก มีการประกาศว่า เกิทเซ่ จะแปรพักตร์ไปอยู่กับศัตรูตัวฉกาจอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ทั้งนี้ แม้เขาจะยิงได้ฤดูกาลละ 15 ประตู ในสองปีแรกที่เล่นให้กับยอดทีมจากบาวาเรีย แต่อดีตดาวรุ่งมหัศจรรย์รายนี้กลับไม่เคยได้รับสถานะแข้งคนสำคัญที่ได้ออกสตาร์ทอย่างสม่ำเสมอเลย

ในฤดูกาลที่สามของตัวรุกชาวเยอรมันกับ บาเยิร์น เขาต้องต่อสู้กับอาการบาดเจ็บเป็นเวลานาน และได้เล่นไปเพียงแค่ 21 เกมเท่านั้น โดยหลังจบซีซั่นดังกล่าว เจ้าตัวเลือกเก็บกระเป๋าย้ายกลับมายัง ดอร์ทมุนด์ อีกหน แถมโชคร้ายถูกตรวจพบว่าเป็นโรคระบบเผาผลาญอาหารในร่างกายผิดปกติ ซึ่งทำให้เจ้าตัวต้องหายหน้าไปจากสนามหลายเดือน และหลังกลับมาจากอาการป่วย เขาก็ไม่เคยเฉียดเข้าใกล้ฟอร์มในอดีตของตัวเองได้อีกเลย

แต่อย่างน้อย ปัจจุบัน แข้งวัย 29 ปี ที่กำลังค้าแข้งกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ก็โชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้ง หลังพาทีมลุ้นแชมป์เอเรดิวิซี่อยู่ในฤดูกาลล่าสุด 

 

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ถือเป็นแม่ทัพเอกของ คล็อปป์ ณ ถิ่น แอนฟิลด์ และในฤดูกาล 2017-18 เหล่า เดอะ ค็อป ก็หวังที่จะได้เห็น 4 แนวรุกอย่าง คูตินโญ่, โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เล่นร่วมกัน อย่างไรก็ตาม คูตี้ กลับพยายามบีบให้สโมสรปล่อยไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า ก่อนจะได้ย้ายไปโลดแล่นที่สเปนสมใจในเดือนมกราคมปี 2018

พ่อมดน้อยแซมบ้า เริ่มต้นได้สวยกับ ‘อาซูลกราน่า’ แต่ฟอร์มของเจ้าตัวกลับดรอปลงเรื่อยๆ จนหลุดตัวจริง และถูกปล่อยให้ บาเยิร์น มิวนิค ยืมตัวไปใช้งานอีก 1 ฤดูกาล แม้กลับมาถิ่น คัมป์ นู อีกครั้งก็ไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น

ส่วนทาง ลิเวอร์พูล พวกเขานำเงินที่ได้จากการขาย คูตินโญ่ ไปลงทุนกับนักเตะใหม่อย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค , อลิสซอน เบ็คเกอร์ และ ฟาบินโญ่ ซึ่งในเวลาต่อมา ผู้เล่นเหล่านี้ได้กลายเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก และ พรีเมียร์ลีกในเวลาต่อมา

ณ ตอนนี้ คูตินโญ่ ก็ยังถูกให้เป็นการเสริมทัพยอดแย่เบอร์ต้นๆในประวัติศาสตร์ของ บาร์ซ่า โดยปัจจุบัน เพลย์เมกเกอร์ชาวบราซิลเลี่ยน เริ่มทำผลงานได้เข้าตาอีกครั้ง หลังย้ายมาเล่นกับ แอสตัน วิลล่า แบบยืมตัว โดยมี สตีเว่น เจอร์ราร์ด อดีตเพื่อนร่วมทีม ‘หงส์แดง’ กุมบังเหียนอยู่

 

จอร์จินิโอ้ ไวจ์นัลดุม

หลายคนประหลาดใจไม่น้อยที่เห็น จอร์จินิโอ้ ไวจ์นัลดุม เลือกไม่ต่อสัญญาใหม่กับ ลิเวอร์พูล และเตรียมย้ายซบ บาร์เซโลน่า แบบไร้ค่าตัว ในซัมเมอร์ปี 2021 ทั้งที่เขามีโอกาสประสบความสำเร็จในอังกฤษมากกว่า

อย่างไรก็ตาม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้โผล่เข้ามาร่วมวงในโค้งสุดท้าย และเพิ่มค่าเหนื่อยให้ถึง 2 เท่าเพื่อปาดหน้าคว้า กองกลางทีมชาติฮอลแลนด์ มาร่วมทีม

เปแอสเช ได้อาจได้สตาร์ดังไปเสริมแกร่งก็จริง แต่บ่อยครั้งที่พวกเขาต้องพบกับความผิดหวัง และ ไวจ์นัลดุม ก็ไม่แตกต่างเท่าไหร่นัก เนื่องจากไม่สามารถยึดเป็นตัวหลักหรือลงเล่นสม่ำเสมอในทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เลย

ซ้ำร้าย ฟอร์มการเล่นของ ดาวเตะวัย 31 ปี ยังถูกวิจารณ์อย่างหนัก และไม่ได้ใกล้เคียงกับที่เขาแสดงให้เห็นเหมือนช่วงที่เล่นกับ หงส์แดง ในยุคของ คล็อปป์ แม้แต่นิดเดียว

 

เชอร์ดาน ชากิรี่

เชอร์ดาน ชากิรี่ เป็นหนึ่งในนักเตะที่มีเส้นทางค้าแข้งแหวกแนวไม่เหมือนใคร ทั้งเคยเล่นให้ บาเบิร์น มิวนิค, อินเตอร์ มิลาน ก่อนย้ายไป สโต๊ค และ ลิเวอร์พูล ก็คว้ามาร่วมทีมในปี 2018 หลัง ‘ช่างปั้นหม้อ’ ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก

ส่วนใหญ่แล้ว ปีกทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ มีบทบาทเป็นตัวสำรอง แต่ก็ถือเป็นตัวทีเด็ดที่ คล็อปป์ ไว้วางใจ ยามต้องการพลิกเกมในสนาม และมีประโยชน์กับทีมเสมอ พร้อมมีส่วนร่วมกับ แชมป์ยุโรป และ แชมป์ลีกอย่างละ สมัย ตลอด 3 ปีในแอนฟิลด์ 

อย่างไรก็ตาม แข้งวัย 30 ปี เคยยอมรับว่าไม่แฮปปี้เท่าไหร่กับสถานะที่เป็นอยู่ใน ‘หงส์แดง’ ก่อนเลือกย้ายไปเล่นกับ โอลิมปิก ลียง ในปี 2021 เพื่อโอกาสลงสนามมากขึ้น ทว่าฟอร์มการเล่นในลีกเอิงต้องบอกว่าน่าผิดหวัง และเลือกย้ายไปเล่นกับ ชิคาโก้ ไฟร์ ในอเมริกา หลังเล่นในฝรั่งเศสได้แค่ 6 เดือน

 

ฟิลิเป้ ซานตาน่า

นักเตะที่เคยร่วมงานกับ คล็อปป์ มีไม่กี่คนที่พูดจาว่าร้ายใส่กุนซือชาวเยอรมัน แต่ ฟิลิเป้ ซานตาน่า คือหนึ่งในนักเตะเหล่านั้น

กองหลังชาวบราซิลเลี่ยน ถือเป็นแนวรับอะไหล่ที่ได้ลงเล่นให้ ดอร์ทมุนด์ มากกว่า 100 นัด แต่การเป็นแค่ตัวสำรองทำให้เขาไม่พอใจทีมอย่างหนัก และบีบให้สโมสรปล่อยเขาออกจากทีม เพื่อโอกาสลงสนามกับทีมอื่นๆที่มากขึ้น

ซานตาน่า ขอขึ้นบัญชีย้ายทีมหลายหน ก่อนย้ายไปร่วมทีม ชาลเก้ สโมสรอริร่วมแคว้นรูห์ ในปี 2013 และนับตั้งแต่นั้นก็เปิดฉากวิจารณ์นายเก่าผ่านสื่อ โดยเฉพาะในเกมที่ ‘เสือเหลือง’ พ่ายให้ บาเยิร์น มิวนิค ในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก

“โค้ชของเรา (คล็อป) งี่เง่า มาริโอ (เกิตเซ่) มีอาการบาดเจ็บในเกมพบ เรอัล มาดริด และจากนั้นเขาก็พาไปที่ โรงพยาบาลมิวนิค” ซานตาน่า กล่าวหลังจากลา ดอร์ทมุนด์

“เมื่อเขากลับมา โค้ชก็ปล่อยให้เขาฝึกซ้อมในวันอังคาร เขาไม่ควรต้องทำแบบนั้น เพราะมีเกมสำคัญในวันเสาร์ (นัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก)” 

แต่หลังจากย้ายทีม ซานตาน่า ก็ไม่สามารถก้าวขึ้นไปเป็นตัวหลักให้กับทีมไหนๆได้เลย ทั้ง ชาลเก้, โอลิมเปียกอส, คราสโนดาร์, แอตเลติโก้ มิไนโร่, ชาเปโคเอนเซ่ และกลายเป็นแข้งไร้สังกัดนับตั้งแต่ปี 2021 

 

ชินจิ คากาวะ

เพลย์เมกเกอร์ชาวญี่ปุ่น สร้างผลงานโดดเด่นอย่างมากกับ ดอร์ทมุนด์ ในยุคของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่คว้าแชมป์ บุนเดสลีก้า 2 สมัยซ้อน แต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธการย้ายไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ลงในปี 2012 เมื่อได้รับคำเชื้อเชิญจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอดกุนซือ ณ ตอนนั้น

คากาวะ อาจได้รับความรักจากแฟนบอล ‘ปีศาจแดง’ และคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองตั้งแต่ปีแรก แต่ท้ายที่สุดแล้ว ฟอร์มการเล่นของเขาต้องบอกว่าน่าผิดหวัง ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และอยู่เพียง 2 ฤดูกาล ก่อนย้ายไป ‘เสือเหลือง’ อีกครั้ง

การย้ายมาเล่น ดอร์ทมุนด์ เป็นคำรบที่สองของ ดาวเตะแดนซามูไร ก็ไม่ต่างจาก เกิตเซ่ เท่าไหร่ ซึ่งฟอร์มไม่ได้ดีเยี่ยมเช่นก่อนแล้ว และหลังจากลาทีมอีกครั้งในปี 2019 ก็พเนจรไปเล่นกับสโมสรทั่วยุโรป ทั้ง เบซิคตัส (ยืมตัว), ซาราโกซ่า, พีเอโอเค และ แซงต์ ทรุยด็อง ในปัจจุบัน

  

นูริ ซาฮิน

นูริ ซาฮิน ได้รับการจับตามองจากสโมสรทั่วยุโรป หลังฉายแสงขึ้นกับ ดอร์ทมุนด์ ก่อนที่เขาจะเลือกลาทีมเพื่อย้ายไปเล่นกับ เรอัล มาดริด ในปี 2011 และนั่นกลายเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดในเวลาต่อมา

กองกลางชาวตุรกี ลงเล่นให้ ‘โลส บลังโกส’ เพียง 10 เกม จากนั้นก็ย้ายไปเล่นกับ ลิเวอร์พูล แบบยืมตัว ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้กราฟชีวิตค้าแข้งของเขาดีขึ้น ก่อนซมซานกลับมา ‘เสือเหลือง’ อีกครั้ง ในปี 2014 แต่ฟอร์มการเล่นก็ไม่เคยกลับมาเหมือนเดิมอีกเลย

ปัจจุบัน ซาฮิน กำลังเล่นกับ อันตัลยาสปอร์ สโมสรในตุรกี และเคยเปิดปากถึง คล็อปป์ ผู้เป็นนายเก่าในปี 2021 ว่า “ผมคิดว่าผู้คนอาจจะเบื่อที่ผมพูดถึงเขาแล้ว แต่เขามีอิทธิพลกับผมมากๆเลย เช่นเดียวกับที่เขามีต่อนักเตะคนอื่นๆ”

“ลองไปถามใครก็ได้ที่ ดอร์ทมุนด์, ไมนซ์ หรือ ลิเวอร์พูล ในตอนนี้ พวกเขาก็จะบอกแบบเดียวกันแน่นอน” 

 

เอ็มเร่ ชาน

นอกเหนือจาก คูตินโญ่ แล้ว เอ็มเร่ ชาน ก็เป็นอดีตแข้ง ลิเวอร์พูล อีกคนที่ย้ายไปยังทีมดังของยุโรปเพื่อค้นหาความสำเร็จที่เขาไม่เคยพบในถิ่น แอนฟิลด์ 

กองกลางชาวเยอรมัน เลือกซบ ยูเวนตุส แบบไร้ค่าตัวในปี 2018 หลังหมดสัญญาจาก ‘หงส์แดง’ แม้ได้แชมป์ลีกกับทีมใหม่ แต่ก็ใช้เวลาค้าแข้งแค่ 18 เดือนในตูริน โดยที่ไม่ใช่ตัวหลักในทีม ก่อนย้ายกลับมาเล่นในบ้านเกิดกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในปี 2020 จนถึงปัจจุบัน

จริงๆสมัยที่เล่นใน อังกฤษ มิดฟิลด์วัย 28 ปี ได้โอกาสลงสนามจาก คล็อปป์ เสมอ แต่นั่นกลับไม่เพียงพอกับความต้องการของเขาเท่าไหร่นัก

“ผมเป็นเพียงชายที่มีความทะเยอทะยานที่ต้องการแข่งขันในระดับสูงสุดอยู่เสมอ แต่ผมก็เรียนรู้จากช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้เช่นกันเมื่อสิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปตามที่ฉันหวังไว้” ชาน กล่าวกับ Kicker สื่อดังเมืองเบียร์ สมัยที่เล่นให้ ‘ม้าลาย’

ถ้าหาก ชาน เลือกอยู่กับ ลิเวอร์พูล ต่อไป อย่างน้อยก็คงคว้าแชมป์ยุโรปอีกสมัย ได้สัมผัสแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในทีมชุดประวัติศาสตร์ และอาจเป็นกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญของทีมก็เป็นได้

บทความที่เกี่ยวข้อง