กัตตูโซ่ฟิวส์ขาด : ย้อนรอยหนแรกมิลานดวลไก่ใน UCL

เอซี มิลาน กับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ดวลกันครั้งแรกในเกมอย่างเป็นทางการกับรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2010-11 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ทว่าเจนนาโร่ กัตตูโซ่ กองกลางพันธ์ดุของ มิลาน และ โจ จอร์แดน โค้ชของสเปอร์ส กลับเป็นคนที่แฟนๆนึกถึงมากที่สุดเมื่อพูดถึงเกมในครั้งนั้น

นั่นเป็นฤดูกาลแรกของ ‘ไก่เดือยทอง’ ในเวที แชมเปี้ยนส์ลีก และพวกเขาเพิ่งฉายฟอร์มโดดเด่นในเกมรอบแบ่งกลุ่มที่อัด อินเตอร์ มิลาน ก่อนถูกจับฉลากมาดวลกับ เอซี มิลาน ทีมอริร่วมเมืองของ งูใหญ่ ในรอบน็อคเอ้าท์

เกมแรก ณ สนาม ซาน ซีโร่ สเปอร์ส ได้ประตูชัยจาก ปีเตอร์ เคร้าช์ ในนาทีที่ 80 และนั่นก็กลายเป็นประตูเดียวที่เกิดขึ้นระหว่างทั้ง 2 ทีมในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายทั้ง 2 เลก 

ทว่าช่วงท้ายเกมนั้น ไฮไลท์สำคัญดันเป็น กัตตูโซ่ ที่ฟิวส์ขาด ไปปะทะวาจากับ จอร์แดน อดีตแข้ง ‘รอสโซเนรี่’ ที่เป็นโค้ชของทีมเยือน ถึงขั้นลงไม้ลงมือด้วยการผลักคอ แต่โค้ชอีกฝ่ายในวัย 59 ปีก็พร้อมปะทะเช่นกัน และกลายเป็นเหตุการณ์ที่แฟนบอลทั้ง 2 ทีมจดจำจนถึงทุกวันนี้

ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงขอพาไปย้อนถึงเกมแรกที่ มิลาน ดวลกับ สเปอร์ส อย่างเป็นทางการใน UCL กับเหตุการณ์ที่ กัตตูโซ่ ปะทะกับ จอร์แดน ณ สนาม ซาน ซีโร่ เมื่อ 12 ปีก่อน

 

ก่อน 2 อดีตแข้งมิลานมาเจอกัน

ยุค 2000 กัตตูโซ่ ถือว่าเป็นกองกลางตัวรับเบอร์ต้นๆของฟุตบอลยุโรป ที่มีส่วนพา เอซี มิลาน กวาดแชมป์มาครองมากมาย ทั้ง เซเรียอา 2 สมัย, โคปปา อิตาเลีย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และแชมป์สโมสรโลก ตลอด 13 ปีในสโมสร

อีกทั้งยังเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมชาติอิตาลีชุดคว้าแชมป์โลกปี 2006 มาครองอีกด้วย แสดงให้เห็นว่า กัตจัง ยอดเยี่ยมแค่ไหนในฐานะกองกลางตัวตัดเกมแห่งยุค

แต่เขาก็เป็นนักเตะอีกคนที่มีชื่อเสียงในด้านจุดเดือดต่ำ หากไม่พอใจกับการตัดสิน หรือการเล่นของอีกฝ่ายก็พร้อมบวกกับทุกคนเช่นกัน

แต่เขาคงไม่ได้ทำการบ้านมาแน่นอน เมื่อดันเลือกไปมีเรื่องกับ จอร์แดน อดีตกองหน้า-ขาลุยทีมชาติสกอตแลนด์ ที่เคยค้าแข้งกับ ‘รอสโซเนรี่’ มาแล้ว ในช่วงปี 1981-83 รวมไปถึงเคยเล่นให้กับ 2 ทีมดังในเกาะอังกฤษอย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงยุค 70 ด้วย

อีกทั้ง จอร์แดน เองก็ยังมีชื่อเป็น 1 ใน 110 ผู้เล่นคนสำคัญในประวัติศาสตร์ของ ปีศาจแดงดำ ด้วย เมื่อปี 2007 ซึ่งจัดขึ้น 2 ปีก่อนที่ทีมจะมีอายุครบ 110 ปี ในปี 2009 โดยเขามีส่วนพาทีมเลื่อนชั้นกลับมาลีกสูงสุดด้วยการคว้าแชมป์ เซเรีย บี ในปี 1983

และโชคชะตาก็ลิขิตให้ แข้งปัจจุบัน กับอดีตแข้งของ มิลาน ที่เป็นสายบวกทั้งคู่ ได้มาพบกันเป็นครั้งแรก เพียงแต่เป็นในฐานะคู่แข่งกัน หลัง จอร์แดน ที่ทำหน้าที่โค้ชของ สเปอร์ส ต้องมาดวลกับทีมเก่าใน UCL ฤดูกาล 2010-11

 

ต่างคนต่างเดือด

แน่นอนว่าตอนแรกไม่มีใครคิดว่าทั้ง กัตตูโซ่ กับ จอร์แดน จะมีจังหวะกระทบกระทั่งอะไรกัน เนื่องจากอีกคนเป็นนักเตะ ส่วนอีกคนก็เป็นสต๊าฟฟ์โค้ช ทำให้โอกาสที่จะหวิดฟาดงวงฟาดงาใส่กัน แทบเป็นไปไม่ได้เลย

และเมื่อเกมในสนามระหว่างทั้ง 2 ทีมเริ่มขึ้น ก็ดูไม่มีจังหวะรุนแรงอะไร จนกระทั่งความเดือดในสนามก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นจากฝั่งทีมจากบ้าน เมื่อ ปีเตอร์ เคร้าช์ เข้าปะทะกับ คริสเตียน อับเบียติ นายด่านของ มิลาน จนได้รับบาดเจ็บ ต้องเปลี่ยนตัวออก

จากนั้น มาติเยอ ฟลามินี่ อดีตกองกลาง อาร์เซน่อล ที่เล่นให้ทีมจากอิตาลี ก็เข้าหนักใส่ เวดราน ชอร์ลูก้า แนวรับของ ‘ไก่เดือยทอง’ จนไปนอนกองกับพื้น จนผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่ายเริ่มเข้าไปเล่นเผชิญหน้ากัน

และจากนั้นนี่เป็นครั้งแรกที่ กัตตูโซ่ และ จอร์แดน ได้เผชิญหน้ากัน ก่อนที่ฝ่ายแรกจะทำการเอามือผลักไปที่คอของฝ่ายหลัง ร้อนจนถึง แฮร์รี่ เร็ดแนปป์ กุนซือของ สเปอร์ส์ ต้องมาห้ามปรามไว้ก่อนจะบานปลาย

ตัวรับทีมชาติอิตาลี เริ่มเล่นหนักขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการฟาวล์ใส่ เคร้าช์, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท จนสร้างความไม่พอใจให้กับทีมเยือน แต่สุดท้ายเขาก็ไม่รอดพ้นใบเหลือง หลังเข้าบอลช้าใส่ สตีเว่น พีนาร์ ซึ่งนั่นทำให้เขาจะพลาดลงเล่นในเกมเลกสองที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน

เกมจบลงด้วยชัยชนะของ สเปอร์ส 1-0 จากประตูโทนของ เคร้าช์ ช่วง 10 นาทีสุดท้าย แต่อารมณ์ที่ดุเดือดของ กัตจัง ยังไม่ดับลงง่ายๆ หลังกลับไปท้าไฟว้กับ จอร์แดน อีกครั้ง ซึ่งอีกฝั่งก็ดูจะพร้อมบวกด้วยเช่นกัน หลังถอดแว่นตารอแล้ว ก่อนสต๊าฟโค้ชของทั้ง 2 ทีมจะเข้ามาห้ามทัพกันยกใหญ่ และทิ้งท้ายด้วยการปะทะกันผ่านวาจาของทั้งคู่

 

ที่แล้วก็แล้วไป

หลังเกมนั้น จอร์แดน มองว่า แข้งชาวอิตาเลี่ยน สติหลุดเองกับผลการแข่งขันที่เกิดขึ้น และทำตัวเป็นปัญหาเอง ทั้งๆที่ทำหน้าที่เป็นกัปตันของ มิลาน แท้ๆ

“กัตตูโซ่ สติหลุดเอง มันเป็นเกมใหญ่ เขาเป็นกัปตันของสโมสรเขา เราเอาชนะในเกมนั้นได้ และเขาก็มีปัญหากับผู้เล่น 1-2 คน เขามีปัญหากับกรรมการด้วย และชัดเจนว่าเขาก็มีปัญหากับตัวเขาเองด้วย เมื่อเลือกมาท้าทายกับคนแก่อย่างผม” อดีตแข้งวัย 71 ปี กล่าวในปี 2016

ทว่าอีกฝ่าย เคลาดิโอ ปาสเคลิน เอเย่นต์ของ กองกลางแดนมักกะโรนี อ้างว่าอีกฝ่ายพูดจาดูถูก จนทำให้นักเตะในความดูแลของเขาตกหลุมพลางทางอารมณ์

“จอร์แดน ดูถูกเขาอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นก็ดูถูกด้วยคำพูดที่ต่ำตมจริงๆ สำหรับคนอย่าง ริโน่ ผู้ซึ่งมีอารมณ์ดุดันของชาวอิตาเลี่ยน ผมคิดว่านี่เป็นการดูหมิ่นที่น่าขยะแขยงและไร้เหตุผลที่สุด” ปาสเคลิน กล่าวกับนักข่าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป ฝ่ายของ อดีตกองกลางทีมชาติอิตาลี เองกลับรู้สึกผิดที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมแบบนั้นกับคนร่วมวงการ โดยกล่าวกับ Corriere della Sera ในปี 2022 ว่า “ผมทำผิดและรู้สึกละอายใจ นั่นเป็นสิ่งที่ผมทำลงไปและเป็นข้อผิดพลาดที่ไม่เหมาะสมจริงๆ”

“ผมพูดได้ว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในสนาม แต่ผมรู้สึกละอายใจกับมัน ผมมีลูกชายอายุ 14 ปี คุณคิดว่าผมไม่ละอายใจทุกครั้งที่เขาถามว่าทำไมผมถึงทำเช่นนั้นได้ยังไล่ะ?”

จริงๆ อดีตตัวรับวัย 45 ปี พยายามจะขอโทษ จอร์แดน โดยตรงแล้ว ด้วยการชวนเขามาเป็นแขกที่ มิลาน หลังจากเกมนั้นจบลงในอีกหลายเดือนต่อมาของปี 2011 และถึงแม้เขาไม่สามารถตอบข้อเสนอของ กัตจัง ได้ แต่อดีตโค้ช สเปอร์ส ก็ยืนว่าไม่ได้ติดใจอะไรเช่นกัน ยกเว้นเรื่องเดียวเท่านั้น

“เขาเชิญผมไปสนามซ้อม และอยากให้ผมไปเป็นแขกที่นั่น น่าจะเป็นช่วงเวลาราวๆ 6 เดือนหลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น แต่ผมก็ไม่มีโอกาสได้ไปหรอก” จอร์แดน กล่าว

“อะไรที่เป็นอดีต ก็เป็นอดีตต่อไป เท่าที่รู้ผมก็ลืมๆไปแล้วล่ะ ไม่ได้โกรธเคืองอะไร แต่น่าเสียดายหน่อยๆที่ผมไม่ได้ลงเล่นเองน่ะสิ” 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง