หลังไม่พอใจกับสถานการณ์และโอกาสลงเล่นที่น้อยลงในสโมสรทำให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ตกเป็นข่าวกำลังพิจารณาเรื่องอนาคตของตัว และอาจตัดสินใจลา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในซัมเมอร์นี้
หนึ่งในทีมที่ให้ความสนใจก็คือคู่แข่งร่วมลีกอย่าง อาร์เซน่อล ซึ่งถือเป็นการย้ายทีมที่น่าสนใจสำหรับ มิเกล อาร์เตต้า ไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขาสามารถเบียด ปีศาจแดง เพื่อคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า โอกาสย้ายทีมสุดช็อกนี้ก็อาจเกิดขึ้นได้เหมือนกัน
หากย้อนกลับไปในอดีต ทั้ง อาร์เซน่อล และ ยูไนเต็ด ต่างเป็นคู่แข่งที่ขับเคี่ยวลุ้นแชมป์กันอย่างเต็มตัวในช่วงปลายยุค 90 จนถึงต้นยุค 2000 นั่นทำให้โอกาสที่ผู้เล่นของพวกเขาย้ายทีมไปเล่นแบบโดยตรงแทบเป็นไปไม่ได้เลย
แต่ทว่าในอดีตก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ทั้ง แฟรงค์ สเตเปิลตัน, วิฟ แอนเดอร์สัน รวมไปถึง เดวิด แพลตต์ หรือ แอนดี้ โคล ด้วย แต่ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดขึ้นก่อนที่ลีกจะทำการเปลี่ยนชื่อเป็นพรีเมียร์ลีกในปี 1992
นับตั้งแต่นั้นก็มีนักเตะถึง 5 คนที่เคยเล่นให้ทั้ง ‘ปีศาจแดง’ กับ ‘ปืนใหญ่’ และ UFA ARENA จะพาไปพบกับทั้ง 5 คนที่เคยเล่นให้กับทั้ง 2 สโมสรยุคพรีเมียร์ลีกผ่านบทความนี้กัน
มิกาแอล ซิลแวสต์
มิกาแอล ซิลแวสต์ กลายเป็นนักเตะคนแรกที่ย้ายสโมสรแบบโดยตรงรัหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล นับตั้งแต่ดีลของ วีฟ แอนเดอร์สัน ในปี 1987
โดย อาร์เซน เวนเกอร์ กุนซือของ ‘ปืนใหญ่’ เคยเผยว่าได้ติดต่อกองหลังชาวฝรั่งเศส ขณะที่กำลังตรวจร่างกายกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนที่พวกเขาจะปาดหน้าคว้านักเตะมาร่วมทีมในปี 2008
ทว่า ซิลแวสต์ คงนึกเสียใจที่รับสายของ เวนเกอร์ ในตอนนั้น เพราะนอกจากไม่ได้แชมป์อะไรกับทีมจากลอนดอนแล้ว ฟอร์มการเล่นของเขาก็ย่ำแย่อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเกมที่โดน ยูไนเต็ด ถล่มในแชมเปี้ยนส์ลีก รอบตัดเชือกปี 2009 และถูกปล่อยตัวออกจากทีมหลังมี 2 ปีที่น่าผิดหวังกับ อาร์เซน่อล
ผิดกับตอนที่เล่น ยูไนเต็ด แม้ไม่ใช่ตัวหลัก แต่ ซิลแวสต์ ก็เป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ร่วมกับ จอห์น โอเชีย โดยลงเล่นให้ทีมถึง 350 นัด พร้อมกับแชมป์เมเจอร์ 8 รายการตลอด 9 ปีในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
การย้ายทีมของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ จาก อาร์เซน่อล ไปยัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือเป็นหนึ่งในการย้ายทีมที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก
กองหน้าดัตช์แมน ใช้เวลา 9 ปีในลอนดอนเหนือ และดันย้ายมาช่วงหลังยุคแชมป์ไร้พ่าย โดยคว้าแชมป์กับ ‘ปืนใหญ่’ แค่เอฟเอ คัพ รายการเดียวเท่านั้นในฤดูกาลแรกกับทีม ก่อนจบซีซั่นแบบมือเปล่าในอีก 8 ปีต่อมา
ด้วยวัย 28 ปี RVP กำลังโชว์ฟอร์มได้พีกเข้าฟักที่สุด หลังซัดไป 30 ตุง ช่วยให้ ‘กันเนอร์ส’ คว้าอันดับ 3 ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2011-12 แต่ด้วยความต้องการประสบความสำเร็จในถ้วยรางวัล จึงเลือกปฏิเสธสัญญาใหม่ เพื่อย้ายทีม ก่อนถูกขายให้กับ ปีศาจแดง ด้วยค่าตัว 24 ล้านปอนด์ในซัมเมอร์ปี 2012 และคว้าแชมป์ลีกสมใจในฤดูกาลนั้น
แดนนี่ เวลเบ็ค
แดนนี่ เวลเบ็ค คือหนึ่งในลูกหม้อของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้รับโอกาสลงเล่นชุดใหญ่ และลงสนามไปแล้วทะลุ 100 นัด
โชคไม่ดีนักที่อาการบาดเจ็บทำให้ เขาไม่มีโอกาสพัฒนาฝีเท้าได้อย่างที่ควร และไม่สามารถกลายเป็นกองหน้าตัวหลักอย่างที่สาวก เร้ด เดวิลส์ คาดหวังได้ และกลายเป็นตัวตลกด้วยซ้ำนับตั้งแต่ เฟอร์กี้ วางมือจากการคุมทีม
ทว่าไม่รู้อะไรดลใจให้ เวนเกอร์ ตัดสินใจคว้า เทพแดน มาซุ้มปืน ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2014 ซึ่งฟอร์มการเล่นโดยรวมก็ไม่ได้โดดเด่นจนยึดตัวหลักได้ยาวๆ และถูกปล่อยตัวออกไปหลังค้าแข้งใน เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม นาน 5 ปี
อย่างไรก็ตาม เวลเบ็ค ก็ถือเป็นนักเตะที่ทั้งแฟนผี-ปืน ยังรักเสมอ เนื่องจากความมุ่งมั่นทุ่มเทให้กับทีมตลอดเวลาที่ลงสนาม แม้การเล่นของเขาจะสร้างความหงุดหงิดให้กับแฟนบอลในบางครั้งบางคราวก็ตาม
เฮนริค มคิตาร์ยาน
หลังโชว์โดดเด่นกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จนคว้าผู้เล่นแห่งปีของบุนเดสลีก้าในปี 2016 เหนือตัวเต็งอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หรือ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ก็ทำให้ เฮนริค มคิตาร์ยาน ได้ย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในซัมเมอร์ปีเดียวกัน
ดาวเตะทีมชาติอาร์เมเนีย โชว์วูบวาบให้เห็นอยู่บ้าง แต่โดยรวมก็ไม่สม่ำเสมออย่างที่ควรจะเป็น อีกทั้งในฤดูกาล 2017-18 ฟอร์มการเล่นของเขาก็ตกลงอย่างน่าใจหาย ซึ่งเกิดปัญหานอกสนามเรื่องความรัก ส่งผลให้ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ ‘ปีศาจแดง’ ณ ตอนนั้น เลือกปล่อย มิคกี้ ให้ อาร์เซน่อล เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการดึง อเล็กซิส ซานเชซ มาร่วมทีม
อย่างไรก็ตาม ฟอร์มการเล่นของ มคิตาร์ยาน กับ ‘ปืนใหญ่’ ก็ไม่ต่างจากสมัยเล่นกับ ยูไนเต็ด เท่าไหร่ ที่โชว์ความวูบวาบให้เห็นแค่เพียงชั่วครู่ชั่วคราว และถูกปล่อยให้ โรม่า แบบถาวรในปี 2020
อเล็กซิส ซานเชซ
แม้ใช้เวลานานสักหน่อย แต่ในที่สุด อาร์เซน่อล ก็ได้แก้แค้น แมนฯ ยูไนเต็ด กับดีลพราก ฟาน เพอร์ซี่ ถึงการได้ มคิตาร์ยาน มาแทนที่จะไม่สามารถยกระดับทีมให้ลุ้นแชมป์ได้ แต่อย่างน้อยการขาย อเล็กซิส ซานเชซ ก็ลดภาระค่าใช้จ่ายได้มากโข แถมได้เงินกลับมาถึง 34 ล้านยูโรจากดีลดังกล่าวด้วย
ดาวเตะชาวชิลี ถือว่าพีกสุดๆ และเป็นตัวหลักในถิ่น เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมในปี 2014 โดยทำ 80 ประตู และ 45 แอสซิสต์จากการลงเล่น 166 นัดระหว่างปี 2014-2017
แม้ในช่วงนั้น ‘ปืนใหญ่’ จะทำพลาดในการเสริมทัพหลายๆครั้ง แต่อย่างน้อยพวกเขาก็เลือกปล่อย ซานเชซ ได้ถูกเวลา และนับจากนั้น ดาวดังละตินก็ไม่เคยโชว์ฟอร์มเก่งได้อีกเลย ทั้งกับ ‘ปีศาจแดง’ หรือ ต้นสังกัดปัจจุบันอย่าง อินเตอร์ มิลาน ด้วย